บทความศึกษา 31
คุณกำลังรอคอย “เมืองที่ตั้งอยู่บนฐานรากที่มั่นคง” ไหม?
“เขากำลังรอคอยเมืองที่ตั้งอยู่บนฐานรากที่มั่นคง ซึ่งพระเจ้าเป็นผู้ออกแบบและผู้สร้าง”—ฮบ. 11:10
เพลง 22 รัฐบาลของพระเจ้าก่อตั้งแล้ว ขอให้มาปกครองโลกเถิด!
ใจความสำคัญ *
1. หลายคนเสียสละอะไรบ้าง? และทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น?
คนของพระเจ้าหลายล้านคนในทุกวันนี้กำลังเสียสละหลายอย่าง บางคนตั้งใจที่จะเป็นโสดและไม่แต่งงาน ส่วนคนที่แต่งงานแล้วก็ตั้งใจที่จะไม่มีลูกตอนนี้ บางครอบครัวก็ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตเรียบง่าย เหตุผลสำคัญที่พวกเขาตัดสินใจแบบนี้ก็เพราะว่าพวกเขาอยากจะรับใช้พระยะโฮวาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขาพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและมั่นใจว่าพระยะโฮวาจะให้ทุกอย่างที่จำเป็นกับพวกเขา คนที่เชื่อแบบนี้จะผิดหวังไหม? ไม่ ทำไมเรามั่นใจเรื่องนี้ได้? ก็เพราะที่ผ่านมาพระยะโฮวาคอยดูแลผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์มาตลอด ตัวอย่างหนึ่งที่เราเห็นก็คือตัวอย่างของอับราฮัม “พ่อของทุกคนที่มีความเชื่อ”—รม. 4:11
2. (ก) จากฮีบรู 11:8-10, 16 ทำไมอับราฮัมเต็มใจออกจากเมืองเออร์? (ข) เราจะคุยอะไรกันในบทความนี้?
2 อับราฮัมเต็มใจออกจากเมืองเออร์ที่สะดวกสบาย ทำไม? เพราะเขารอคอย “เมืองที่ตั้งอยู่บนฐานรากที่มั่นคง” (อ่านฮีบรู 11:8-10, 16) บทความนี้เราจะมาดูว่า “เมือง” นี้คืออะไร? ตอนที่อับราฮัมรอให้เมืองนี้ถูกสร้างขึ้น เขาเจอปัญหาอะไร? และเราจะเป็นแบบอับราฮัมและพี่น้องในทุกวันนี้ที่เลียนแบบเขาได้อย่างไร?
“เมืองที่ตั้งอยู่บนฐานรากที่มั่นคง” คืออะไร?
3. เมืองที่อับราฮัมรอคอยคืออะไร?
3 เมืองที่อับราฮัมรอคอยคือรัฐบาลของพระเจ้า รัฐบาลนี้มีพระเยซูเป็นกษัตริย์และมีคริสเตียนผู้ถูกเจิม 144,000 คนร่วมปกครองกับท่าน เปาโลพูดถึงรัฐบาลนี้ว่าเป็น “เมืองของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ คือเยรูซาเล็มในสวรรค์” (ฮบ. 12:22; วว. 5:8-10; 14:1) พระเยซูก็สอนสาวกให้อธิษฐานเกี่ยวกับรัฐบาลนี้ และขอให้รัฐบาลนี้มาปกครองเพื่อทุกอย่างบนโลกจะเป็นอย่างที่พระเจ้าอยากให้เป็นเหมือนที่เป็นในสวรรค์—มธ. 6:10
4. จากปฐมกาล 17:1, 2, 6 อับราฮัมรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเมืองที่พระเจ้าสัญญา?
4 อับราฮัมรู้รายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับรัฐบาลของพระเจ้าไหม? เป็นเวลาหลายร้อยปีที่เรื่องนี้เป็น “ความลับศักดิ์สิทธิ์” (อฟ. 1:8-10; คส. 1:26, 27) แต่อับราฮัมรู้ว่าลูกหลานบางคนของเขาจะได้เป็นกษัตริย์เพราะพระยะโฮวาสัญญาเรื่องนี้กับเขา (อ่านปฐมกาล 17:1, 2, 6) เขามั่นใจในคำสัญญาของพระยะโฮวามากจนเหมือนกับว่าเขาได้เห็นเมสสิยาห์หรือผู้ถูกเจิมซึ่งจะเป็นกษัตริย์ในรัฐบาลของพระเจ้า เพราะอย่างนี้พระเยซูถึงบอกกับชาวยิวในสมัยของท่านว่า “อับราฮัมพ่อของพวกคุณดีใจมากที่รู้ว่าจะได้เห็นวันที่ผมจะมา แล้วเขาก็ได้เห็นวันนั้นและมีความสุข” (ยน. 8:56) เห็นได้ชัดเลยว่าอับราฮัมรู้ว่าลูกหลานของเขาบางคนจะได้มีส่วนในรัฐบาลที่พระยะโฮวาตั้งขึ้น และเขารอวันที่พระองค์จะทำให้คำสัญญานั้นเป็นจริง
5. เรารู้ได้อย่างไรว่าอับราฮัมรอคอยเมืองที่พระเจ้าออกแบบ?
5 อับราฮัมแสดงให้เห็นอย่างไรว่าเขารอคอยเมืองหรือรัฐบาลที่พระเจ้าออกแบบ? อย่างแรก อับราฮัมไม่ได้เป็นพลเมืองของชาติไหน เขาไม่ได้ลงหลักปักฐานที่ไหน และไม่ได้สนับสนุนกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์คนไหนเลย นอกจากนั้น อับราฮัมไม่ได้พยายามตั้งรัฐบาลหรืออาณาจักรของตัวเองขึ้นมา แต่เขาเชื่อฟังพระยะโฮวาตลอดและรอคอยวันที่พระองค์จะทำให้คำสัญญาเป็นจริง การทำอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าเขามีความเชื่อในพระยะโฮวามากจริง ๆ ให้เรามาดูว่าอับราฮัมเจอปัญหาอะไรบ้างและเราจะเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของเขา
อับราฮัมเจอปัญหาอะไรบ้าง?
6. เมืองเออร์เป็นเมืองแบบไหน?
6 อับราฮัมออกจากเมืองเออร์ซึ่งเป็นเมืองที่สะดวกสบาย เมืองนี้ปลอดภัยด้วยเพราะว่ามีกำแพงใหญ่ และมีคูน้ำล้อมเมืองไว้ 3 ด้าน คนในเมืองเออร์เป็นคนที่มีการศึกษาและร่ำรวย พวกเขายังเก่งเรื่องงานเขียนและคณิตศาสตร์ด้วย เมืองเออร์เป็นศูนย์กลางของการทำธุรกิจในสมัยนั้นเพราะนักโบราณคดีค้นพบเอกสารธุรกิจมากมายที่นั่น บ้านในเมืองนั้นสร้างด้วยอิฐ มีการฉาบผนังให้เรียบและทาสีขาว บ้านบางหลังมี 13 หรือ 14 ห้อง และยังมีลานบ้านที่ปูด้วยหินอยู่ตรงกลางด้วย
7. ทำไมอับราฮัมต้องไว้ใจว่าพระยะโฮวาจะคุ้มครองเขาและครอบครัว?
7 อับราฮัมต้องไว้ใจว่าพระยะโฮวาจะคุ้มครองเขาและครอบครัว ทำไม? เพราะพวกเขาเคยอยู่ในบ้านที่สะดวกสบายและปลอดภัยในเมืองเออร์ แต่ตอนนี้กลับต้องมาอยู่ในเต็นท์กลางทุ่งของคานาอันซึ่งไม่มีกำแพงใหญ่และไม่มีคูน้ำที่คอยป้องกัน นี่อาจทำให้พวกเขาถูกศัตรูโจมตีได้ง่าย
8. อับราฮัมเจอกับปัญหาอะไร?
8 อับราฮัมเต็มใจทำตามความต้องการของพระยะโฮวา แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่เขาต้องเจอปัญหาเกี่ยวกับการหาเลี้ยงครอบครัว มีการขาดแคลนอาหารในคานาอันซึ่งเป็นที่ที่พระยะโฮวาบอกให้เขาไป การขาดแคลนอาหารนี้หนักมากถึงขนาดที่อับราฮัมต้องตัดสินใจพาครอบครัวไปอียิปต์ระยะหนึ่ง ในช่วงที่อยู่ที่นั่นฟาโรห์ที่เป็นผู้ปกครองอียิปต์ก็เอาภรรยาเขาไป ลองคิดดูว่าในช่วงนั้นอับราฮัมจะเครียดมากแค่ไหนจนกว่าพระยะโฮวาจะทำให้ฟาโรห์คืนซาราห์ให้กับเขา—ปฐก. 12:10-19
9. อับราฮัมต้องเจอกับปัญหาอะไรในครอบครัว?
9 อับราฮัมมีปัญหาในครอบครัวด้วย ซาราห์ภรรยาที่เขารักมากไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ นี่ทำให้พวกเขาเศร้าและผิดหวังเป็นเวลาหลายสิบปี ในที่สุดซาราห์เลยยกสาวใช้ของตัวเองที่ชื่อฮาการ์ให้เป็นภรรยาของอับราฮัมเพื่อเธอจะมีลูกให้พวกเขาได้ แต่พอฮาการ์รู้ว่าตัวเองตั้งท้องอิชมาเอล เธอก็เริ่มดูถูกซาราห์ สถานการณ์ตอนนั้นแย่มากจนซาราห์ไล่ฮาการ์ออกจากบ้าน—ปฐก. 16:1-6
10. เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายทั้งสองของอับราฮัมที่อาจทดสอบความไว้ใจที่เขามีต่อพระยะโฮวา?
10 ในที่สุดซาราห์ก็มีลูกชายที่ชื่อว่าอิสอัค อับราฮัมรักลูกชายทั้งสองคนมาก แต่อิชมาเอลทำไม่ดีกับอิสอัคจนถึงขั้นที่อับราฮัมต้องตัดสินใจให้อิชมาเอลกับฮาการ์ออกจากบ้านไป (ปฐก. 21:9-14) หลายปีต่อมา พระยะโฮวาขอให้อับราฮัมถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา (ปฐก. 22:1, 2; ฮบ. 11:17-19) ทั้งสองเหตุการณ์นี้อับราฮัมต้องไว้ใจว่าพระยะโฮวาจะทำให้คำสัญญาเกี่ยวกับลูก ๆ ของเขาเกิดขึ้นจริง
11. ทำไมอับราฮัมต้องอดทนรอพระยะโฮวา?
11 ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา อับราฮัมต้องเรียนรู้ที่จะอดทนรอพระยะโฮวา ตอนที่เขากับครอบครัวออกจากเมืองเออร์ เขาน่าจะอายุมากกว่า 70 ปีแล้ว (ปฐก. 11:31-12:4) เขาต้องเดินทางเร่ร่อนในแผ่นดินคานาอันและอาศัยอยู่ในเต็นท์ประมาณ 100 ปี ในที่สุดเขาตายตอนอายุ 175 ปี (ปฐก. 25:7) แต่อับราฮัมก็ยังไม่เห็นพระยะโฮวาให้แผ่นดินที่พระองค์สัญญาไว้กับลูกหลานของเขา และเขาก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่จนเห็นเมืองหรือรัฐบาลของพระเจ้าตั้งขึ้น แต่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “อับราฮัมตายตอนที่แก่ชรามากแล้ว เขามีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข” (ปฐก. 25:8) ทั้ง ๆ ที่มีปัญหามากมายในชีวิตแต่เขาก็ยังมีความเชื่อเข้มแข็งและเต็มใจรอพระยะโฮวา ทำไมเขาถึงอดทนรอพระยะโฮวาได้? ก็เพราะว่าตลอดชีวิตของเขาพระยะโฮวาคุ้มครองดูแลและเป็นเพื่อนเขาเสมอ—ปฐก. 15:1; อสย. 41:8; ยก. 2:22, 23
12. เรากำลังรอคอยอะไร? และเราจะคุยอะไรกันต่อไป?
12 เหมือนกับอับราฮัมเราก็กำลังรอเมืองที่ตั้งอยู่บนฐานรากที่มั่นคงด้วย แต่เราไม่ได้รอให้เมืองนี้ถูกสร้างขึ้น รัฐบาลของพระเจ้าตั้งขึ้นแล้วในปี 1914 และควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในสวรรค์แล้ว แต่เรากำลังรอให้รัฐบาลของพระเจ้าควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ด้วย (วว. 12:7-10) ตอนที่เรากำลังรอให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เราต้องเจอปัญหาหลายอย่างคล้าย ๆ กับที่อับราฮัมและซาราห์เจอ ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาในทุกวันนี้เลียนแบบตัวอย่างของอับราฮัมไหม? เรื่องราวชีวิตจริงในหอสังเกตการณ์ ทำให้เห็นว่าพวกเขามีความเชื่อและอดทนรอพระยะโฮวาเหมือนอับราฮัมและซาราห์จริง ๆ ให้เรามาดูเรื่องราวของพวกเขาด้วยกัน และดูว่าเราเรียนอะไรได้บ้างจากประสบการณ์ของพวกเขา
คนที่เลียนแบบตัวอย่างของอับราฮัม
13. คุณเรียนอะไรจากเรื่องของพี่น้องบิล วอลเดน?
13 เต็มใจเสียสละ ถ้าคุณอยากทำให้รัฐบาลของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต คุณก็ต้องทำเหมือนอับราฮัมคือเต็มใจเสียสละสิ่งต่าง ๆ เพื่อทำให้พระยะโฮวาพอใจ (มธ. 6:33; มก. 10:28-30) ให้เรามาดูตัวอย่างของพี่น้องบิล วอลเดน * ในปี 1942 ก่อนที่เขาจะเรียนจบปริญญาตรีไม่กี่เดือน เขาก็เริ่มศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานฯ พอเขาเรียนจบปริญญาตรีสาขาสถาปัตยวิศวกรรม อาจารย์ก็เสนอที่จะหางานดี ๆ ให้เขา แต่บิลปฏิเสธและบอกกับอาจารย์ว่าเขาอยากจะรับใช้พระยะโฮวาอย่างเต็มที่แทนที่จะทำงานที่ได้เงินเยอะ หลังจากนั้นไม่นาน บิลถูกเรียกให้ไปเกณฑ์ทหาร แต่เขาก็ปฏิเสธด้วยความนับถือ ถึงอย่างนั้นบิลต้องจ่ายค่าปรับ 10,000 ดอลลาร์และถูกตัดสินจำคุก 5 ปี แต่พอติดคุกไป 3 ปี บิลก็ถูกปล่อย หลังจากนั้นเขาถูกเชิญเข้าโรงเรียนกิเลียดและได้เป็นมิชชันนารีที่แอฟริกา เขาได้แต่งงานกับอีวาและรับใช้ด้วยกันที่นั่น ซึ่งนี่ทำให้บิลและอีวาต้องเสียสละมาก ในที่สุดพวกเขาก็ต้องกลับมาที่อเมริกาเพื่อดูแลแม่ของบิล บิลพูดลงท้ายเรื่องราวของเขาว่า “ผมตื้นตันใจจนน้ำตาคลอเมื่อคิดถึงสิทธิพิเศษอันยอดเยี่ยมที่ได้รับใช้พระยะโฮวามานานกว่า 70 ปี ผมขอบคุณพระยะโฮวาเสมอที่ชี้นำผมให้เลือกงานรับใช้พระองค์เป็นงานอาชีพ” แล้วคุณล่ะ คุณจะรับใช้เต็มเวลาได้ไหม?
14-15. คุณเรียนอะไรจากเรื่องของพี่น้องอะริสโตเตลิสและภรรยา?
14 อย่าคาดหมายว่าชีวิตจะไม่มีปัญหา จากตัวอย่างของอับราฮัมเราได้เห็นว่า ถึงแม้คนเราจะรับใช้พระยะโฮวาอย่างเต็มที่ทั้งชีวิตของเขา เขาก็ยังต้องเจอกับปัญหา (ยก. 1:2; 1 ปต. 5:9) ให้เรามาดูว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับพี่น้องอะริสโตเตลิส อะโพสโตลีดิส *อย่างไร เขารับบัพติศมาในปี 1946 ที่ประเทศกรีซ และในปี 1952 เขาได้หมั้นกับพี่น้องเอเลนีที่มีเป้าหมายที่จะรับใช้พระยะโฮวาอย่างเต็มที่เหมือนกับเขา หลังจากนั้นไม่นาน หมอบอกเอเลนีว่าเธอมีเนื้องอกในสมอง หมอเลยผ่าตัดเอาเนื้องอกนั้นออก แต่หลังจากที่แต่งงานไม่กี่ปีเนื้องอกในสมองก็กลับมาอีก หมอได้ผ่าตัดอีกครั้งแต่การผ่าตัดครั้งนี้ทำให้เอเลนีเป็นอัมพาตบางส่วน ถึงเธอจะมีปัญหาสุขภาพและรัฐบาลในประเทศนั้นก็ข่มเหงงานของพยานฯ เธอก็ยังกระตือรือร้นในการรับใช้อยู่
15 ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่พี่น้องอะริสโตเตลิสได้ดูแลภรรยาของเขา เขาก็ยังรับใช้เป็นผู้ดูแลประชาคม คณะกรรมการการประชุมภูมิภาค และยังมีส่วนในการช่วยสร้างหอประชุมใหญ่ด้วย ต่อมาในปี 1987 ตอนที่ภรรยาของเขากำลังประกาศก็เกิดอุบัติเหตุกับเธอ นี่ทำให้เธออาการโคม่านานถึง 3 ปีและสุดท้ายเธอก็เสียชีวิต พี่น้องอะริสโตเตลิสลงท้ายในเรื่องราวชีวิตจริงของเขาว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสภาพการณ์ที่ตึงเครียด ปัญหาท้าทายอันยากยิ่ง และเหตุการณ์หลายอย่างที่คิดไม่ถึงล้วนแต่ต้องใช้ความเข้มแข็งและความเพียรอดทนมากกว่าธรรมดา กระนั้น พระยะโฮวาทรงประทานกำลังตามที่จำเป็นแก่ผมเสมอเพื่อเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้” (สด. 94:18, 19) พระยะโฮวารักคนที่ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อรับใช้พระองค์ถึงแม้พวกเขาจะเจอปัญหามากมายในชีวิต
16. พี่น้องนอร์ให้คำแนะนำที่ดีอะไรกับภรรยา?
16 มองไปที่อนาคต อับราฮัมมองไปที่รางวัลที่พระยะโฮวาจะให้เขาในอนาคต และนี่ทำให้เขาสามารถอดทนกับปัญหาที่เขาต้องเจอ ให้เรามาดูตัวอย่างของพี่น้องออเดรย์ ไฮด์ * ถึงแม้พี่น้องนาธาน เอช. นอร์สามีคนแรกของเธอจะตายเพราะเป็นโรคมะเร็ง และพี่น้องเกล็นน์ ไฮด์สามีคนที่สองจะป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่เธอก็ยังมองไปที่ความหวังในอนาคตเสมอ พี่น้องออเดรย์ ไฮด์ได้พูดถึงสิ่งที่พี่น้องนอร์บอกกับเธอไม่กี่อาทิตย์ก่อนที่เขาจะตายซึ่งช่วยให้เธอสามารถอดทนและมีความสุขได้ เธอบอกว่า “นาทานเตือนใจฉันว่า ‘ภายหลังการตาย ความหวังของเราแน่นอน และเราจะไม่ต้องทนทุกข์อีก’ แล้วเขากระตุ้นเตือนฉันดังนี้ ‘มองไปข้างหน้า เพราะคุณจะรับบำเหน็จในอนาคต . . . ’ เขาเสริมอีกว่า ‘จงยุ่งอยู่กับงาน ใช้ชีวิตทำประโยชน์แก่ผู้อื่น นี่แหละจะช่วยคุณประสบความชื่นชมยินดีในชีวิต’” นี่เป็นคำแนะนำที่ดีกับพวกเราทุกคนจริง ๆ ที่จะพยายามทำสิ่งที่ดีให้กับคนอื่นอยู่เสมอและมีความสุขกับความหวัง—รม. 12:12
17. (ก) เรามีเหตุผลอะไรที่จะมองไปที่อนาคต? (ข) การทำตามตัวอย่างในมีคาห์ 7:7 จะช่วยเราอย่างไรให้ได้รับพรในอนาคต?
17 ตอนนี้เรายิ่งมีเหตุผลมากกว่าเดิมที่จะมองไปที่อนาคต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกทุกวันนี้ทำให้เราเห็นชัดเลยว่าเราอยู่ในช่วงท้ายของสมัยสุดท้าย อีกไม่นานเราจะได้เห็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฐานรากที่มั่นคงปกครองและควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ ในตอนนั้นเราจะได้พรมากมาย และพรอย่างหนึ่งที่เราจะได้รับก็คือ เราจะได้เจอคนที่เรารักกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งในโลกใหม่ของพระเจ้า ในตอนนั้นพระยะโฮวาจะให้รางวัลอับราฮัมเพราะเขาแสดงความเชื่อและอดทนรอพระองค์ อับราฮัมกับครอบครัวจะถูกปลุกให้มีชีวิตอีกครั้งในอนาคต คุณจะได้อยู่ที่นั่นเพื่อต้อนรับเขาไหม? คุณจะได้อยู่ที่นั่นแน่ถ้าคุณทำแบบอับราฮัมคือเต็มใจเสียสละเพื่อรัฐบาลของพระเจ้า รักษาความเชื่อถึงแม้ว่าจะเจอกับปัญหา และอดทนรอพระยะโฮวาเสมอ—อ่านมีคาห์ 7:7
เพลง 74 มาร้องเพลงเกี่ยวกับรัฐบาลของพระเจ้า
^ วรรค 5 การที่เรารอวันที่คำสัญญาของพระยะโฮวาเป็นจริงอาจเป็นการทดสอบความอดทนและความเชื่อของเรา ตัวอย่างของอับราฮัมช่วยเราอย่างไรให้อดทนรอวันที่คำสัญญาของพระยะโฮวาเป็นจริง? และผู้รับใช้ของพระองค์ในทุกวันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างไร?
^ วรรค 13 เรื่องราวชีวิตจริงของพี่น้องบิล วอลเดนอยู่ในหอสังเกตการณ์ 1 ธันวาคม 2013 น. 8-10
^ วรรค 14 เรื่องราวชีวิตจริงของพี่น้องอะริสโตเตลิส อะโพสโตลีดิสอยู่ในหอสังเกตการณ์ 1 กุมภาพันธ์ 2002 น. 24-28
^ วรรค 16 เรื่องราวชีวิตจริงของพี่น้องออเดรย์ ไฮด์อยู่ในหอสังเกตการณ์ 1 กรกฎาคม 2004 น. 23-29
^ วรรค 56 คำอธิบายภาพ สามีภรรยาที่อายุมากคู่หนึ่งรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์แม้ว่าจะมีปัญหาหลายอย่าง พวกเขามีความเชื่อที่เข้มแข็งเพราะมองไปที่คำสัญญาในอนาคต
หอสังเกตการณ์ (ฉบับศึกษา)