บทความศึกษา 30
คุณเห็นค่าที่ได้อยู่ในครอบครัวของพระยะโฮวาไหม?
“พระองค์สร้างเขาให้ต่ำกว่าทูตสวรรค์หน่อยหนึ่ง พระองค์ให้เขามีเกียรติยศและความสง่างาม”—สด. 8:5
เพลง 123 ทำตามระเบียบขององค์การพระเจ้าด้วยความภักดี
ใจความสำคัญ *
1. เมื่อคิดถึงทุกสิ่งที่พระยะโฮวาสร้าง เราอาจรู้สึกยังไง?
เมื่อเราคิดถึงเอกภพอันกว้างใหญ่ที่พระยะโฮวาสร้าง เราอาจจะรู้สึกเหมือนกับดาวิดตอนที่เขาอธิษฐานถึงพระองค์ว่า “เมื่อผมมองดูท้องฟ้าซึ่งเป็นผลงานของพระองค์ และดวงจันทร์กับดวงดาวที่พระองค์สร้างไว้ ผมก็คิดว่า มนุษย์เป็นใครกันพระองค์จึงคิดถึงเขา และลูกของมนุษย์เป็นใครกันที่พระองค์ต้องดูแลเขา?” (สด. 8:3, 4) เราคงประทับใจมากที่ได้รู้ว่าทั้ง ๆ ที่เราตัวเล็กนิดเดียวแต่พระยะโฮวาก็ยังสนใจเรา และเดี๋ยวเราจะได้เห็นว่าจริง ๆ แล้วพระยะโฮวาสนใจมนุษย์ตั้งแต่แรกเลยคือตั้งแต่ตอนที่พระองค์สร้างอาดัมกับเอวา แต่ไม่ใช่แค่นั้น พระองค์ยังให้พวกเขามาเป็นครอบครัวของพระองค์ด้วย
2. พระยะโฮวาอยากให้อาดัมกับเอวาทำอะไร?
2 อาดัมกับเอวาเป็นลูกสองคนแรกของพระยะโฮวาบนโลก และพระยะโฮวาก็เป็นพ่อที่รักพวกเขามาก พระองค์มีงานให้พวกเขาทำ พระองค์บอกพวกเขาว่า “ให้เกิดลูกหลานมากมายและเพิ่มจำนวนให้เต็มโลก ให้มีอำนาจเหนือแผ่นดิน” (ปฐก. 1:28) พระยะโฮวาอยากให้พวกเขามีลูกหลานและดูแลโลกที่เป็นบ้านของพวกเขา ถ้าอาดัมกับเอวาเชื่อฟังและทำตามที่พระองค์บอก เขาทั้งสองคนและลูกหลานของพวกเขาก็จะได้เป็นครอบครัวของพระองค์ตลอดไป
3. ทำไมเราถึงบอกได้ว่าอาดัมกับเอวาได้อยู่ในครอบครัวของพระยะโฮวาอย่างมีเกียรติ?
3 อาดัมกับเอวาได้อยู่ในครอบครัวของพระยะโฮวาอย่างมีเกียรติ เราเห็นเรื่องนี้ได้จากคำพูดของดาวิดในสดุดี 8:5 เขาพูดถึงมนุษย์ที่พระยะโฮวาสร้างว่า “พระองค์สร้างเขาให้ต่ำกว่าทูตสวรรค์หน่อยหนึ่ง พระองค์ให้เขามีเกียรติยศและความสง่างาม” ถึงมนุษย์จะไม่ได้มีพลัง มีสติปัญญา หรือมีความสามารถเหมือนกับทูตสวรรค์ แต่มนุษย์ก็ต่ำกว่าทูตสวรรค์แค่ “หน่อยหนึ่ง” (สด. 103:20) คิดดูสิ พระยะโฮวาให้พ่อแม่คู่แรกของเรามีชีวิตที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ
4. เกิดอะไรขึ้นกับอาดัมและเอวาหลังจากที่พวกเขาไม่เชื่อฟังพระยะโฮวา? และเราจะคุยอะไรกันในบทความนี้?
4 น่าเศร้าที่อาดัมกับเอวาไม่ได้เป็นครอบครัวของพระยะโฮวาอีกต่อไป และอย่างที่เราจะได้เห็นในบทความนี้ ลูกหลานของพวกเขาก็ต้องได้รับผลที่เลวร้ายจากการไม่เชื่อฟังของพวกเขาด้วย แต่ความตั้งใจของพระยะโฮวายังไม่เปลี่ยนแปลง พระองค์ยังอยากให้มนุษย์ที่เชื่อฟังเป็นลูกของพระองค์ตลอดไป ก่อนอื่น ให้เรามาดูว่าพระยะโฮวาให้เกียรติเรายังไง จากนั้นดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อทำให้เห็นว่าเราอยากเป็นครอบครัวของพระองค์ และสุดท้ายเราจะมาดูว่าลูก ๆ ของพระยะโฮวาที่อยู่บนโลกจะได้รับพรอะไรตลอดไป
พระยะโฮวาให้เกียรติมนุษย์ยังไง?
5. เราจะให้เกียรติพระยะโฮวาผู้ที่สร้างเราตามแบบพระองค์ได้ยังไง?
5 พระยะโฮวาให้เกียรติเราโดยสร้างเราตามแบบพระองค์ (ปฐก. 1:26, 27) เพราะเราถูกสร้างตามแบบพระเจ้า เราเลยแสดงคุณลักษณะเหมือนกับพระองค์ได้ เช่น ความรัก ความสงสาร ความภักดี และความถูกต้อง (สด. 86:15; 145:17) เมื่อเราแสดงคุณลักษณะเหล่านี้ เราก็ให้เกียรติพระยะโฮวาและพิสูจน์ว่าเราเห็นค่าสิ่งที่พระองค์ให้กับเรา (1 ปต. 1:14-16) เราจะทำให้พระยะโฮวาพ่อของเรามีความสุขและตัวเราเองก็จะมีความสุขด้วย และเพราะเรามีคุณลักษณะเหมือนพระยะโฮวา พระองค์ก็จะให้เราเป็นครอบครัวของพระองค์
6. พระยะโฮวาให้เกียรติมนุษย์ยังไงตอนที่พระองค์เตรียมโลกให้กับมนุษย์?
6 พระยะโฮวาเตรียมบ้านที่พิเศษมากให้กับเรา พระยะโฮวาเตรียมโลกไว้นานมาแล้วก่อนที่พระองค์จะสร้างมนุษย์ (โยบ 38:4-6; ยรม. 10:12) และเพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่ใจกว้างและคิดถึงคนอื่น พระองค์เลยสร้างสิ่งดี ๆ หลายอย่างเพื่อให้เรามีความสุข (สด. 104:14, 15, 24) หลายครั้งที่พระองค์คิดและมองดูทุกสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้น พระองค์ “เห็นว่าดี” (ปฐก. 1:10, 12, 31) พระองค์ให้เกียรติมนุษย์โดยให้พวกเขา “ปกครอง” ทุกสิ่งที่พระองค์สร้างบนโลก (สด. 8:6) พระเจ้าตั้งใจให้มนุษย์มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบและมีความสุขกับการดูแลสิ่งที่พระองค์สร้างตลอดไป และพระองค์สัญญาว่าเราจะมีชีวิตแบบนั้นได้ในอนาคต คุณขอบคุณพระยะโฮวาสำหรับเรื่องนี้เป็นประจำไหม?
7. โยชูวา 24:15 บอกยังไงที่ทำให้เราเห็นว่ามนุษย์มีอิสระในการตัดสินใจ?
7 พระยะโฮวาให้เรามีอิสระในการตัดสินใจ เราเลือกเองได้ว่าจะใช้ชีวิตยังไง (อ่านโยชูวา 24:15) และพระยะโฮวาก็มีความสุขถ้าเราเลือกรับใช้พระองค์ (สด. 84:11; สภษ. 27:11) นอกจากนั้น เรายังเลือกที่จะทำสิ่งดี ๆ หลายอย่างได้ด้วย ให้เรามาดูตัวอย่างของพระเยซู
8. พระเยซูใช้อิสระของท่านยังไง?
8 วิธีหนึ่งที่เราจะใช้อิสระที่เรามีได้ก็คือเลือกที่จะให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าตัวเราเอง ถ้าทำแบบนี้เราก็กำลังเลียนแบบพระเยซู มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่ท่านกับสาวกรู้สึกเหนื่อยมาก พวกเขาก็เลยไปหาที่เงียบ ๆ เพื่อจะพักผ่อน แต่พอผู้คนรู้ พวกเขาก็ตามมาฟังพระเยซูสอน ถึงพระเยซูจะเหนื่อย แต่ท่านไม่ได้รำคาญพวกเขา ท่านสงสารและ “สอนพวกเขาหลายเรื่อง” (มก. 6:30-34) เราเลียนแบบพระเยซูได้โดยสละเวลาและกำลังของเราเพื่อช่วยคนอื่น ถ้าเราทำอย่างนี้ เราก็จะทำให้พระยะโฮวาพ่อในสวรรค์ของเราได้รับการยกย่องสรรเสริญ (มธ. 5:14-16) และเราทำให้พระองค์เห็นว่าเราอยากเป็นครอบครัวของพระองค์
9. พ่อแม่ควรคิดถึงอะไร?
9 พระยะโฮวาให้มนุษย์มีความสามารถที่จะมีลูกและให้พวกเขามีหน้าที่ที่จะสอนลูกให้รักและรับใช้พระองค์ ถึงพระยะโฮวาจะให้ทูตสวรรค์มีความสามารถหลายอย่าง แต่พระองค์ก็ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษนี้กับพวกเขา คุณที่เป็นพ่อแม่ คุณเห็นค่าสิทธิพิเศษนี้ไหม? พ่อแม่ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาได้รับความไว้วางใจจากพระเจ้าให้ทำหน้าที่สำคัญที่จะเลี้ยงลูก “ด้วยคำสั่งสอนและคำตักเตือนจากพระยะโฮวา” (อฟ. 6:4; ฉธบ. 6:5-7; สด. 127:3) เพื่อพ่อแม่จะทำอย่างนั้นได้ องค์การของพระเจ้าเตรียมเครื่องมือสำหรับการสอนไว้หลายอย่าง เช่น หนังสือ วีดีโอ เพลง และบทความในเว็บไซต์ เห็นชัดเลยว่าพระยะโฮวาและพระเยซูลูกของพระองค์รักเด็ก ๆ มากจริง ๆ (ลก. 18:15-17) ถ้าพ่อแม่พึ่งพระยะโฮวาและพยายามเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด พวกเขาก็ทำให้พระยะโฮวาพอใจ และยังจะทำให้ลูก ๆ มีโอกาสได้เป็นครอบครัวของพระองค์ตลอดไปด้วย
10-11. ค่าไถ่ทำให้อะไรเป็นไปได้?
10 พระยะโฮวายอมสละลูกที่รักที่สุดของพระองค์เพื่อเราจะมาเป็นครอบครัวของพระองค์ได้ อย่างที่เราเรียนใน ข้อ 4 อาดัมกับเอวาไม่ได้เป็นครอบครัวของพระยะโฮวาอีกต่อไป และพวกเขาทำให้ลูกหลานไม่ได้เป็นครอบครัวของพระองค์ด้วย (รม. 5:12) อาดัมกับเอวาไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาไม่สมควรที่จะเป็นครอบครัวของพระองค์อยู่แล้ว แต่พระยะโฮวารักลูกหลานของพวกเขา พระองค์เลยให้พระเยซูลูกคนเดียวของพระองค์มาเป็นค่าไถ่เพื่อมนุษย์ที่เชื่อฟังจะมีโอกาสได้มาเป็นครอบครัวของพระองค์อีกครั้ง (ยน. 3:16; รม. 5:19) ค่าไถ่ของพระเยซูทำให้มนุษย์ที่ซื่อสัตย์ 144,000 คนสามารถเป็นลูกของพระองค์ได้—รม. 8:15-17; วว. 14:1
11 นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายล้านคนที่เชื่อฟังและพยายามทำตามความต้องการของพระยะโฮวา พวกเขามีความหวังว่าถ้าพวกเขาผ่านการทดสอบขั้นสุดท้ายตอนสิ้นสุดสมัยพันปี พวกเขาจะได้เป็นครอบครัวของพระยะโฮวาจริง ๆ (สด. 25:14; รม. 8:20, 21) และเพราะมีความหวังแบบนี้ พวกเขาก็เลยเรียกพระยะโฮวาผู้ที่สร้างพวกเขาว่า “พ่อ” ได้ตั้งแต่ตอนนี้ (มธ. 6:9) ส่วนคนที่ถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตายก็จะมีโอกาสได้เรียนว่าพระยะโฮวาต้องการให้พวกเขาทำอะไรบ้าง ถ้าพวกเขาเชื่อฟังและทำตาม พวกเขาก็จะมีโอกาสได้มาเป็นครอบครัวของพระองค์ด้วย
12. เราจะเรียนอะไรต่อจากนี้?
12 เราเห็นว่าพระยะโฮวาทำหลายอย่างที่แสดงว่าพระองค์ให้เกียรติมนุษย์ก่อน ตอนนี้พระยะโฮวารับพวกผู้ถูกเจิมให้เป็นลูกของพระองค์แล้ว และพระองค์ก็ให้ความหวังกับ “ชนฝูงใหญ่” ที่จะได้เป็นลูกจริง ๆ ของพระองค์ในโลกใหม่ (วว. 7:9) ตอนนี้ให้เรามาดูว่าเราต้องทำอะไรเพื่อจะให้พระยะโฮวาเห็นว่าเราอยากเป็นครอบครัวของพระองค์ตลอดไป
ทำให้พระยะโฮวาเห็นว่าคุณอยากเป็นครอบครัวของพระองค์
13. เราต้องทำอะไรเพื่อจะได้เป็นครอบครัวของพระเจ้า? (มาระโก. 12:30)
13 รักพระยะโฮวาโดยรับใช้พระองค์สุดหัวใจ (อ่านมาระโก 12:30) พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ใจกว้าง พระองค์ให้หลายอย่างกับเรา สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่พระองค์ให้กับเราก็คือความสามารถที่จะรับใช้พระองค์ เราแสดงให้พระยะโฮวาเห็นว่าเรารักพระองค์ได้โดย “เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์” (1 ยน. 5:3) คำสั่งอย่างหนึ่งของพระยะโฮวาก็คือให้ทำตามที่พระเยซูบอกที่ให้ไปสอนคนให้เป็นสาวกและให้พวกเขารับบัพติศมา (มธ. 28:19) พระเยซูยังสั่งให้เรารักกันด้วย (ยน. 13:35) ถ้าเราเชื่อฟังคำสั่งของพระยะโฮวา พระองค์ก็จะให้เราเป็นครอบครัวของพระองค์—สด. 15:1, 2
14. เราจะทำให้เห็นยังไงว่าเรารักคนอื่น? (มัทธิว 9:36-38; โรม 12:10)
14 รักคนอื่น ความรักเป็นคุณลักษณะที่สำคัญที่สุดของพระยะโฮวา (1 ยน. 4:8) พระองค์รักเราก่อนที่เราจะรู้จักพระองค์ด้วยซ้ำ (1 ยน. 4:9, 10) ถ้าเรารักคนอื่น เราก็กำลังเลียนแบบพระองค์ (อฟ. 5:1) วิธีหนึ่งที่ดีที่สุดที่จะแสดงว่าเรารักคนอื่นก็คือช่วยเขาให้รู้จักพระยะโฮวาตอนที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ (อ่านมัทธิว 9:36-38) การทำอย่างนี้จะช่วยพวกเขาให้มีโอกาสได้เข้ามาเป็นครอบครัวของพระเจ้า และถึงเขาจะรับบัพติศมาแล้ว เราก็ยังต้องรักเขาและให้เกียรติเขาอยู่ (1 ยน. 4:20, 21) ตัวอย่างเช่น ถ้ามีเรื่องอะไรที่อาจทำให้เราสงสัยเขาได้ เราน่าจะพยายามมองเขาในแง่ดีและไม่คิดว่าเขามีเจตนาร้าย เราจะให้เกียรติพี่น้องและมองว่าเขาดีกว่าตัวเราเอง—อ่านโรม 12:10; ฟป. 2:3
15. เราควรเมตตาและทำดีกับใครบ้าง?
15 เมตตาและทำดีกับทุกคน ถ้าเราอยากเรียกพระยะโฮวาว่าพ่อและเป็นครอบครัวของพระองค์ตลอดไป เราต้องทำตามสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลบอก ตัวอย่างเช่น พระเยซูสอนให้เราเมตตาและทำดีกับทุกคน แม้แต่กับศัตรูของเราด้วยซ้ำ (ลก. 6:32-36) ถ้าเรารู้สึกว่ายากที่จะทำอย่างนั้นก็ให้เราพยายามคิดและทำตามพระเยซู และถ้าเราเชื่อฟังพระยะโฮวาและเลียนแบบพระเยซูอย่างดีที่สุด เราก็ทำให้พระยะโฮวาเห็นว่าเราอยากเป็นครอบครัวของพระองค์ตลอดไป
16. เราจะปกป้องชื่อเสียงของครอบครัวพระยะโฮวาได้ยังไง?
16 ปกป้องชื่อเสียงของครอบครัวพระยะโฮวา เป็นเรื่องปกติที่น้องจะเลียนแบบพี่ ถ้าพี่ทำตามคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล เขาก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง แต่ถ้าพี่ทำตัวไม่ดี น้องก็อาจทำไม่ดีตามพี่ด้วย ในครอบครัวของพระยะโฮวาก็เหมือนกัน ถ้าพี่น้องคริสเตียนคนหนึ่งที่เคยรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์กลายเป็นคนทรยศพระเจ้า หรือเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบผิดศีลธรรม หรือเจตนาทำสิ่งที่ชั่ว พี่น้องคนอื่นก็อาจจะเลียนแบบและทำให้ครอบครัวของพระยะโฮวาเสียชื่อเสียง (1 ธส. 4:3-8) ดังนั้น เราต้องไม่เลียนแบบตัวอย่างที่ไม่ดีของคนอื่น และต้องไม่ยอมให้อะไรก็ตามมาทำให้เราห่างจากพ่อในสวรรค์ของเรา
17. เราต้องไม่คิดแบบไหน และทำไม?
17 วางใจในพระยะโฮวาไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง พระยะโฮวาสัญญาว่าถ้าเราใช้ชีวิตตามมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระองค์และให้การปกครองของพระองค์สำคัญที่สุด พระยะโฮวาจะดูแลให้เรามีสิ่งจำเป็น เช่น อาหาร เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย (สด. 55:22; มธ. 6:33) ถ้าเรามั่นใจในคำสัญญาของพระองค์ เราจะไม่คิดว่าทรัพย์สินเงินทองจะทำให้ชีวิตของเราปลอดภัยและมีความสุขตลอดไปได้ เรารู้ว่าวิธีเดียวที่จะช่วยให้เราสงบใจได้จริง ๆ ก็คือทำตามความต้องการของพระยะโฮวา (ฟป. 4:6, 7) ถึงเราจะมีเงินที่จะซื้อของได้เยอะแยะ แต่เราต้องคิดว่าเราจะมีเวลาและมีแรงพอที่จะใช้มันและดูแลรักษามันไหม นอกจากนั้น เป็นไปได้ไหมว่าเราจะรักสิ่งของที่เรามีและให้ความสำคัญกับมันมากเกินไป จำไว้ว่าเราอยู่ในครอบครัวของพระยะโฮวา พระองค์มีงานให้เราทำ เราต้องไม่ให้อะไรมาดึงความสนใจของเราไปจากงานนั้น เราไม่อยากเป็นเหมือนชายหนุ่มที่พระเยซูชวนให้ติดตามท่าน แทนที่เขาจะคว้าโอกาสที่จะได้รับใช้พระยะโฮวาและเป็นลูกของพระองค์ เขากลับปฏิเสธโอกาสนั้นแค่เพราะเขารักทรัพย์สมบัติที่เขามีมากกว่า—มก. 10:17-22
พรที่ลูก ๆ ของพระยะโฮวาจะได้รับตลอดไป
18. มนุษย์ที่เชื่อฟังจะได้รับเกียรติและพรอะไรตลอดไป?
18 มนุษย์ที่เชื่อฟังจะได้รับเกียรติสูงสุดจากพระยะโฮวาคือพวกเขาจะได้รักและนมัสการพระองค์ตลอดไป นอกจากนั้น พวกเขาจะได้ดูแลโลกที่สวยงามที่พระยะโฮวาสร้างให้เป็นบ้านของพวกเขาตั้งแต่แรก เพราะอีกไม่นานรัฐบาลของพระเจ้าจะทำให้โลกและทุกอย่างบนโลกสมบูรณ์แบบ พระเยซูจะกำจัดผลเสียหายที่มาจากการที่อาดัมและเอวาเลือกที่จะทิ้งครอบครัวของพระเจ้า พระยะโฮวาจะปลุกคนเป็นล้าน ๆ ให้กลับมามีชีวิตอีก พวกเขาจะมีโอกาสที่จะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและมีชีวิตตลอดไปบนโลกที่เป็นสวนอุทยาน (ลก. 23:42, 43) ในที่สุด เมื่อมนุษย์ที่รับใช้พระยะโฮวาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ พวกเขาแต่ละคนก็จะ “มีเกียรติยศและความสง่างาม” อย่างที่ดาวิดพูดถึง—สด. 8:5
19. เราควรจำอะไรไว้เสมอ?
19 ขอให้จำไว้ว่า ถ้าคุณเป็น “ชนฝูงใหญ่” คุณมีความหวังที่ยอดเยี่ยมมาก พระเจ้ารักคุณและอยากให้คุณเป็นครอบครัวของพระองค์ ขอให้คุณทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อทำให้พระองค์พอใจและให้คำสัญญาของพระองค์อยู่ในใจคุณเสมอ ขอให้คุณเห็นค่าสิทธิพิเศษที่คุณได้รับใช้พ่อในสวรรค์และมีโอกาสที่จะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป
เพลง 107 พระเจ้าเป็นแบบอย่างของความรัก
^ วรรค 5 เพื่อครอบครัวจะมีความสุข แต่ละคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเองและร่วมมือกับคนอื่นในครอบครัว พ่อเป็นผู้นำครอบครัวที่มีความรัก แม่จะคอยช่วยเหลือพ่อ และลูก ๆ ก็มีหน้าที่เชื่อฟังพ่อแม่ ครอบครัวของพระยะโฮวาก็เหมือนกัน พระองค์ให้หน้าที่กับเราและถ้าเราทำตามสิ่งที่พระองค์บอก เราก็จะได้เป็นครอบครัวของพระองค์ตลอดไป
^ วรรค 55 คำอธิบายภาพ พระยะโฮวาสร้างมนุษย์ตามแบบของพระองค์ สามีภรรยาคู่นี้เลยสามารถแสดงความรักและความเห็นอกเห็นใจต่อกันและต่อลูก ๆ ของพวกเขาเหมือนพระองค์ได้ ทั้งสองคนรักพระยะโฮวา พวกเขาเห็นค่าสิทธิพิเศษในการมีลูกเลยสอนลูกให้รักและรับใช้พระองค์ พวกเขาให้ลูก ๆ ดูวีดีโอและอธิบายให้ลูกฟังว่าทำไมพระยะโฮวาถึงให้พระเยซูมาเป็นค่าไถ่ และสอนลูกว่าเราจะได้อยู่ในสวนอุทยานและได้ดูแลโลกกับสัตว์ตลอดไป
หอสังเกตการณ์ (ฉบับศึกษา)