เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

รักครั้งแรกช่วยผมให้อดทนได้

รักครั้งแรกช่วยผมให้อดทนได้

ช่วง​ต้น​ฤดู​ร้อน​ปี ค.ศ. 1970 ผม​นอน​อยู่​บน​เตียง​ผู้​ป่วย​ที่​โรง​พยาบาล​แวลลีย์ ฟอร์จ ใน​ฟีนิกซ์วิลล์ รัฐ​เพนซิลเวเนีย สหรัฐ​อเมริกา ตอน​นั้น​ผม​อายุ 20 ปี ผม​เป็น​ทหาร​และ​กำลัง​ป่วย​เพราะ​ติด​เชื้อ​อย่าง​รุนแรง บุรุษ​พยาบาล​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​น่า​จะ​อายุ​มาก​กว่า​ผม​แค่​ไม่​กี่​ปี​เข้า​มา​วัด​ความ​ดัน​ผม​ทุก ๆ ครึ่ง​ชั่วโมง เขา​มี​สี​หน้า​กังวล​ที่​เห็น​ความ​ดัน​ของ​ผม​ลด​ต่ำ​ลง​เรื่อย ๆ ผม​ถาม​เขา​ว่า “คุณ​ยัง​ไม่​เคย​เห็น​ใคร​ตาย​มา​ก่อน​ใช่​ไหม?” เขา​หน้า​ซีด​แล้ว​ตอบ​ว่า “ไม่ ผม​ไม่​เคย​เห็น”

ตอน​นั้น ชีวิต​ผม​ดู​เหมือน​ไม่​มี​ความ​หวัง ผม​มา​อยู่​ที่​โรง​พยาบาล​ได้​อย่าง​ไร? ผม​จะ​เล่า​เรื่อง​ของ​ผม​ให้​ฟัง

ก้าว​เข้า​สู่​สงคราม

ผม​เริ่ม​ป่วย​ตอน​ที่​ทำ​งาน​ใน​ห้อง​ผ่าตัด​ช่วง​สงคราม​เวียดนาม ผม​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​ช่วย​คน​ป่วย​และ​คน​บาดเจ็บ ที่​จริง ผม​มี​เป้าหมาย​อยาก​เป็น​หมอ​ผ่าตัด ผม​มา​ที่​เวียดนาม​ใน​เดือน​กรกฎาคม ปี 1969 ผม​กับ​คน​อื่น ๆ ที่​เพิ่ง​มา​ใหม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​พัก 1 สัปดาห์​ก่อน​เริ่ม​งาน​เพื่อ​ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​เวลา​ที่​ต่าง​กัน​และ​อากาศ​ที่​ร้อน​อบอ้าว

หลัง​จาก​รายงาน​ตัว​ที่​โรง​พยาบาล​ผ่าตัด​ซึ่ง​อยู่​บริเวณ​สาม​เหลี่ยม​ปาก​แม่น้ำ​โขง​ใน​ดอง​ทาม ผม​เห็น​เฮลิคอปเตอร์​หลาย​ลำนำ​ผู้​บาดเจ็บ​มา​ส่ง เมื่อ​เห็น​อย่าง​นั้น ด้วย​ความ​รัก​ชาติ​และ​ชอบ​ทำ​งาน​ผม​จึง​อยาก​เริ่ม​งาน​ทันที เมื่อ​ผู้​บาดเจ็บ​มา​ถึง จะ​มี​การ​ปฐม​พยาบาล​เบื้อง​ต้น จาก​นั้น​ก็​รีบ​ส่ง​ไป​ห้อง​ผ่าตัด​ซึ่ง​เป็น​ห้อง​ปรับ​อากาศ​ที่​ดัด​แปลง​จาก​ตู้​คอนเทนเนอร์​ขนาด​เล็ก ที่​นั่น​มี​ศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ และ​บุรุษ​พยาบาล​สอง​คน​คอย​ช่วย ทุก​คน​มา​รวม​กัน​อยู่​ใน​ห้อง​แคบ ๆ นั้น​และ​พยายาม​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​รักษา​ชีวิต​คน​เจ็บ และ​ผม​ยัง​สังเกต​ว่า​มี​ถุง​ดำ​ขนาด​ใหญ่​หลาย​ใบ​ที่​ไม่​ได้​ขน​ลง​จาก​เฮลิคอปเตอร์ มี​คน​บอก​ว่า​ถุง​เหล่า​นั้น​มี​ชิ้น​ส่วน​อวัยวะ​ของ​ทหาร​ที่​โดน​ระเบิด นี่​แหละ​ที่​ผม​เริ่ม​ก้าว​เข้า​สู่​สงคราม

แสวง​หา​พระเจ้า

ตอน​เป็น​วัยรุ่น ผม​ได้​รู้​ความ​จริง​บาง​อย่าง​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า

ตอน​เป็น​หนุ่ม ผม​ได้​รู้​ความ​จริง​บาง​อย่าง​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​จาก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​แม่​ของ​ผม​เคย​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​ฯ​แต่​ไม่​ก้าว​หน้า​จน​ถึง​ขั้น​รับ​บัพติสมา ผม​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​นั่ง​ฟัง​ตอน​ที่​แม่​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ มี​อยู่​วัน​หนึ่ง ผม​กับ​พ่อ​เลี้ยง​ได้​ผ่าน​หน้า​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร ผม​ถาม​พ่อ​ว่า “ที่​นั่น​เป็น​อะไร​เหรอ​ครับ?” พ่อ​ตอบ​ว่า “อย่า​ไป​ยุ่ง​กับ​คน​พวก​นั้น​เด็ดขาด!” เนื่อง​จาก​ผม​รัก​และ​เชื่อ​ฟัง​พ่อ​เลี้ยง​ของ​ผม​มาก ผม​เลย​ไม่​ได้​ติด​ต่อ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​อีก

พอ​กลับ​มา​จาก​เวียดนาม ผม​รู้สึก​ว่า​ผม​ต้องการ​พระเจ้า ความ​ทรง​จำ​อัน​แสน​เจ็บ​ปวด​ทำ​ให้​ความ​รู้สึก​ของ​ผม​ด้าน​ชา ตอน​นั้น​ดู​เหมือน​ว่า​ไม่​มี​ใคร​เข้าใจ​จริง ๆ ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่​เวียดนาม ผม​จำ​ได้​ว่า​กลุ่ม​ผู้​ประท้วง​เรียก​ทหาร​อเมริกัน​ว่า​พวก​สังหาร​เด็ก เพราะ​มี​การ​รายงาน​ข่าว​ว่า​มี​เด็ก​ที่​ไม่​รู้​อีโหน่อีเหน่​จำนวน​มาก​ถูก​ฆ่า​ใน​สงคราม

ผม​อยาก​รู้​จัก​พระเจ้า​มาก​ขึ้น ผม​จึง​เริ่ม​ไป​โบสถ์​ต่าง ๆ จริง ๆ แล้ว​ผม​รัก​พระเจ้า​มา​ตลอด​แต่​รู้สึก​ผิด​หวัง​กับ​สิ่ง​ที่​เจอ​ใน​โบสถ์​เหล่า​นั้น ใน​ที่​สุด ผม​ก็​ลอง​ไป​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​เมือง​เดล​เรย์​บีช รัฐ​ฟลอริดา ซึ่ง​ตรง​กับ​วัน​อาทิตย์​ของ​เดือน​กุมภาพันธ์​ปี 1971

ตอน​ที่​ผม​ไป​ถึง​หอ​ประชุม คำ​บรรยาย​สาธารณะ​เกือบ​จะ​จบ​แล้ว แต่​ผม​ก็​อยู่​ต่อ​เพื่อ​ร่วม​ศึกษา​วารสาร​หอสังเกตการณ์ แม้​ผม​จะ​จำ​ชื่อ​เรื่อง​ที่​ศึกษา​ไม่​ได้ แต่​ผม​จำ​ได้​ว่า​มี​เด็ก​เล็ก ๆ คน​หนึ่ง​พยายาม​เปิด​หา​ข้อ​คัมภีร์​ด้วย​ตัว​เอง นั่น​ทำ​ให้​ผม​ประทับใจ​มาก! ผม​นั่ง​สังเกต​และ​ฟัง​อยู่​เงียบ ๆ จน​จบ​การ​ประชุม และ​เมื่อ​ผม​กำลัง​จะ​กลับ​ก็​มี​พี่​น้อง​ชาย​ที่​น่า​รัก​คน​หนึ่ง​อายุ​ประมาณ 80 ปี​เดิน​มา​หา​ผม เขา​ชื่อ​จิม การ์ดเนอร์ เขา​ยื่น​หนังสือ​เล่ม​หนึ่ง​ที่​มี​ชื่อ​ว่า​ความ​จริง​ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ชีวิต​ถาวร ให้​ผม​แล้ว​ถาม​ว่า “คุณ​อยาก​ได้​หนังสือ​นี้​ไหม​ครับ?” จาก​นั้น​เรา​ก็​นัด​เจอ​กัน​ใน​เช้า​วัน​พฤหัสบดี​เพื่อ​เริ่ม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ครั้ง​แรก

หลัง​กลับ​จาก​การ​ประชุม​ใน​วัน​นั้น ผม​ต้อง​ทำ​งาน​ที่​โรง​พยาบาล​เอกชน​ชื่อ​โบคาเรตัน​ใน​รัฐ​ฟลอริดา ผม​ทำ​งาน​ใน​ห้อง​ฉุกเฉิน​ตั้ง​แต่ 5 ทุ่ม​ถึง 7 โมง​เช้า ซึ่ง​เป็น​ช่วง​ที่​เงียบ​และ​ไม่​วุ่นวาย ผม​จึง​มี​เวลา​อ่าน​หนังสือ​ความ​จริง ขณะ​ที่​ผม​กำลัง​อ่าน​เพลิน ๆ ก็​มี​พยาบาล​รุ่น​พี่​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้า​มา​และ​กระชาก​หนังสือ​ออก​จาก​มือ​ผม เธอ​ดู​ที่​หน้า​ปก​และ​พูด​เสียง​ดัง​ว่า “คุณ​จะ​ไป​เป็น​พวก​เขา​อีก​คน​เหรอ?” ผม​ดึง​หนังสือ​กลับ​แล้ว​บอก​ว่า “ใช่ ถึง​ผม​จะ​อ่าน​ได้​แค่​ครึ่ง​เดียว แต่​ผม​จะ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แน่นอน!” เมื่อ​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น​เธอ​ก็​ไป ส่วน​ผม​ก็​อ่าน​หนังสือ​ต่อ​จน​จบ

จิม การ์ดเนอร์​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ผม เขา​เป็น​ผู้​ถูก​เจิม​และ​รู้​จัก​กับ​ชาลส์ เทซ รัสเซลล์

พอ​ถึง​วัน​ที่​นัด​กับ​การ์ดเนอร์ ผม​ถาม​ว่า “วัน​นี้​เรา​จะ​ศึกษา​อะไร​ครับ?” เขา​บอก​ว่า “เรา​จะ​ศึกษา​หนังสือ​ที่​ผม​ให้​คุณ​ไว้” ผม​บอก​เขา​ว่า “ผม​อ่าน​เล่ม​นั้น​จบ​แล้ว​ครับ” เขา​ตอบ​อย่าง​กรุณา​ว่า “ดี ถ้า​งั้น​เรา​มา​เรียน​บท​แรก​ด้วย​กัน​นะ” พอ​เรียน​ด้วย​กัน​ผม​ก็​แปลก​ใจ​ว่า​จริง ๆ แล้ว​มี​หลาย​อย่าง​ที่​ผม​ยัง​ไม่​รู้ เขา​ให้​ผม​ดู​ข้อ​พระ​คัมภีร์​หลาย​ข้อ​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ฉบับ​คิงเจมส์ ของ​ผม ใน​ที่​สุด ผม​ก็​ได้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​เที่ยง​แท้ ใน​เช้า​วัน​นั้น​ผม​ได้​เรียน​หนังสือ​ความ​จริง ถึง 3 บท​จาก​พี่​น้อง​การ์ดเนอร์​ที่​ผม​ชอบ​เรียก​ว่า​จิม จาก​นั้น ทุก​เช้า​วัน​พฤหัสบดี​เรา​จะ​ศึกษา​ครั้ง​ละ 3 บท ผม​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​เรียน​รู้​หลาย​เรื่อง ผม​รู้สึก​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​เรียน​กับ​จิม​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ถูก​เจิม​และ​เขา​ก็​รู้​จัก​กับ​ชาลส์ ที. รัสเซลล์​เป็น​อย่าง​ดี​ด้วย!

ไม่​กี่​สัปดาห์​ต่อ​มา ผม​ก็​มี​คุณสมบัติ​ได้​เป็น​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ดี จิม​ช่วย​ผม​รับมือ​กับ​ความ​กังวล​ต่าง ๆ รวม​ทั้ง​ข้อ​ท้าทาย​ใน​การ​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ด้วย (กิจ. 20:20) การ​ที่​ผม​ได้​ประกาศ​คู่​กับ​จิม​ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​สุข​มาก ผม​มอง​งาน​รับใช้​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ยิ่ง​ใหญ่ นับ​ว่า​น่า​ยินดี​มาก​จริง ๆ ที่​ได้​เป็น​ผู้​ร่วม​งาน​กับ​พระเจ้า!—1 โค. 3:9

รัก​ครั้ง​แรก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา

ตอน​นี้​ผม​อยาก​เล่า​เกี่ยว​กับ​ความ​รัก​ครั้ง​แรก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา (วิ. 2:4) ความ​รัก​นั้น​ช่วย​ผม​ให้​รับมือ​กับ​ความ​ทรง​จำ​อัน​แสน​เจ็บ​ปวด​ใน​ช่วง​สงคราม​และ​เมื่อ​เจอ​ปัญหา​อื่น ๆ อีก​มาก​มาย—ยซา. 65:17

ความ​รัก​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ผม​ให้​รับมือ​กับ​ความ​ทรง​จำ​อัน​แสน​เจ็บ​ปวด​ใน​ช่วง​สงคราม​และ​เมื่อ​เจอ​ปัญหา​อื่น ๆ อีก​มาก​มาย

ผม​รับ​บัพติสมา​ที่​สนาม​กีฬา​แยงกี ใน​เดือน​กรกฎาคม ค.ศ. 1971 ใน​การ​ประชุม​ภาค​ที่​มี​ชื่อ​ว่า “พระ​นาม​ของ​พระเจ้า”

ผม​จำ​ได้​ดี​ถึง​วัน​พิเศษ​วัน​หนึ่ง​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี 1971 ตอน​นั้น ผม​เพิ่ง​ถูก​พ่อ​เลี้ยง​ไล่​ออก​จาก​คอนโดมิเนียม​เพราะ​เขา​ไม่​อยาก​ให้​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แม้​แต่​คน​เดียว​มา​อยู่​ใน​คอนโด​ของ​เขา ช่วง​นั้น​ผม​ไม่​ค่อย​มี​เงิน แม้​โรง​พยาบาล​ที่​ผม​ทำ​งาน​อยู่​จะ​จ่าย​เงิน​ให้​ทุก ๆ 2 สัปดาห์ แต่​ผม​ก็​เอา​เงิน​เกือบ​ทั้ง​หมด​ไป​ซื้อ​เสื้อ​ผ้า​สำหรับ​ใส่​ประกาศ​เพื่อ​จะ​ได้​ดู​เรียบร้อย​และ​เหมาะ​สม​ที่​จะ​เป็น​ตัว​แทน​ของ​พระ​ยะโฮวา ที่​จริง ผม​ก็​พอ​มี​เงิน​เก็บ​อยู่​บ้าง แต่​เงิน​นั้น​ฝาก​ไว้​ใน​ธนาคาร​ที่​มิชิแกน รัฐ​ที่​ผม​เคย​อยู่​ตอน​เป็น​เด็ก​ซึ่ง​อยู่​ไกล​ออก​ไป ผม​ก็​เลย​ต้อง​อาศัย​อยู่​ใน​รถ​สอง​สาม​วัน เวลา​จะ​โกน​หนวด​และ​อาบ​น้ำ​ผม​จะ​ใช้​ห้อง​น้ำ​ที่​ปั๊ม​น้ำมัน

วัน​หนึ่ง​หลัง​จาก​เลิก​งาน และ​ตอน​นั้น​ผม​ยัง​อาศัย​อยู่​ใน​รถ ผม​มา​ที่​หอ​ประชุม​ประมาณ​สอง​ชั่วโมง​ก่อน​พี่​น้อง​จะ​มา​เจอ​กัน​เพื่อ​ไป​ประกาศ ผม​นั่ง​อยู่​หลัง​หอ​ประชุม​ซึ่ง​ไม่​มี​ใคร​เห็น ทันใด​นั้น ความ​ทรง​จำ​ตอน​ที่​อยู่​เวียดนาม​ก็​ผุด​ขึ้น​มา​ทั้ง​กลิ่น​ร่าง​ของ​คน​ที่​ถูก​ไฟ​ไหม้​และ​ภาพ​ของ​คน​ที่​เนื้อ​ตัว​เต็ม​ไป​ด้วย​เลือด ผม​เห็น ภาพ​พวก​เด็ก​หนุ่ม​และ​ได้​ยิน พวก​เขา​ร้อง​ว่า “ผม​จะ​รอด​ไหม? ผม​จะ​รอด​ไหม?” ทั้ง ๆ ที่​รู้ ว่า​พวก​เขา​จะ​ต้อง​ตาย แต่​ผม​ต้อง​พยายาม​เก็บ​ความ​รู้สึก​ไม่​ให้​แสดง​ออก​มา​ทาง​สี​หน้า​และ​ปลอบ​พวก​เขา เมื่อ​นึก​ถึง​เรื่อง​เหล่า​นั้น ผม​ก็​รู้สึก​เศร้า​และ​สลด​หดหู่​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

เวลา​ที่​ผม​เจอ​ปัญหา​และ​ความ​ยุ่งยาก​ต่าง ๆ ผม​จะ​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​ไม่​ให้​ความ​รัก​ครั้ง​แรก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​หมด​ไป

ผม​อธิษฐาน​ทั้ง​น้ำตา (เพลง. 56:8) แล้ว​ก็​เริ่ม​คิด​อย่าง​ลึกซึ้ง​เกี่ยว​กับ​ความ​หวัง​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย เรื่อง​นั้น​ทำ​ให้​ผม​คิด​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​การ​นอง​เลือด​ที่​ผม​เคย​เห็น​หมด​ไป รวม​ทั้ง​บาดแผล​ทาง​อารมณ์​ที่​ผม​กับ​คน​อื่น ๆ ได้​รับ​ก็​จะ​หาย​ไป​ด้วย พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​เด็ก​หนุ่ม​เหล่า​นั้น​กลับ​มา​มี​ชีวิต​อีก​ครั้ง และ​มี​โอกาส​ได้​เรียน​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​พระองค์ (กิจ. 24:15) เมื่อ​คิด​ถึง​เรื่อง​นี้ หัวใจ​ของ​ผม​ก็​เต็ม​ล้น​ไป​ด้วย​ความ​รัก​ต่อ​พระ​ยะโฮวา วัน​นั้น​จึง​เป็น​วัน​พิเศษ​สำหรับ​ผม​เสมอ ตั้ง​แต่​นั้น​มา เวลา​ที่​ผม​เจอ​ปัญหา​และ​ความ​ยุ่งยาก​ต่าง ๆ ผม​จะ​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​ไม่​ให้​ความ​รัก​ครั้ง​แรก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​หมด​ไป

พระ​ยะโฮวา​ดี​ต่อ​ผม​เสมอ

ผู้​คน​ทำ​สิ่ง​ที่​น่า​สยดสยอง​ใน​สงคราม​และ​ผม​เอง​ก็​เคย​ทำ​อย่าง​นั้น​ด้วย แต่​การ​ใคร่ครวญ​ข้อ​คัมภีร์​สอง​ข้อ​ที่​ผม​ชอบ​เป็น​พิเศษ​ช่วย​ได้​มาก ข้อ​แรก​คือ​วิวรณ์ 12:10, 11 ที่​บอก​ว่า​พญา​มาร​จะ​พ่าย​แพ้​ไม่​ใช่​แค่​โดย​งาน​ประกาศ​ของ​เรา​เท่า​นั้น แต่​โดย​เลือด​ของ​พระ​เมษโปดก​ด้วย ข้อ​ที่​สอง​คือ​กาลาเทีย 2:20 ใน​ข้อ​นั้น​ผม​รู้​ว่า​พระ​คริสต์​ตาย ‘เพื่อ​ผม’ ดัง​นั้น พระ​ยะโฮวา​ได้​ให้​อภัย​สิ่ง​ที่​ผม ทำ​ใน​อดีต​โดย​อาศัย​เลือด​ของ​พระ​เยซู การ​รู้​เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​ผม​สบาย​ใจ​และ​ทำ​ให้​ผม​อยาก​ทำ​ทุก​สิ่ง​เพื่อ​ช่วย​คน​อื่น​ให้​รู้​จัก​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​เมตตา​ของ​เรา!—ฮีบรู 9:14

พอ​มอง​ย้อน​กลับ​ไป ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​อย่าง​ลึกซึ้ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ดู​แล​ผม​เสมอ เช่น เมื่อ​จิม​รู้​ว่า​ผม​อาศัย​อยู่​ใน​รถ เขา​ก็​ช่วย​ติด​ต่อ​พี่​น้อง​หญิง​ที่​มี​ห้อง​ให้​เช่า ผม​เชื่อ​จริง ๆ ว่า​พระ​ยะโฮวา​ใช้​จิม​และ​พี่​น้อง​หญิง​คน​นั้น​ให้​จัด​หา​ที่​อยู่​ที่​เหมาะ​สม​ให้​ผม พระ​ยะโฮวา​กรุณา​จริง ๆ! พระองค์​ดู​แล​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระองค์​เสมอ

กระตือรือร้น​แต่​ต้อง​เรียน​รู้​ที่​จะ​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา

ใน​เดือน​พฤษภาคม ปี 1971 ผม​ต้อง​ไป​มิชิแกน​เพื่อ​ทำ​ธุระ​บาง​อย่าง แต่​ก่อน​เดิน​ทาง​ผม​เอา​หนังสือ​ต่าง ๆ จาก​ประชาคม​เดล​เรย์​บีช​ไป​เต็ม​รถ แล้ว​ออก​จาก​ฟลอริดา​มุ่ง​หน้า​ไป​ทาง​เหนือ​บน​ทาง​หลวง​หมาย​เลข 75 ผม​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​อย่าง​กระตือรือร้น​ตลอด​เส้น​ทาง ผม​แวะ​ประกาศ​ที่​เรือน​จำ และ​ถึง​กับ​ให้​แผ่น​พับ​กับ​พวก​ผู้​ชาย​ใน​ห้อง​น้ำ​ของ​จุด​พัก​รถ​หลาย​แห่ง​ด้วย ดัง​นั้น พอ​ไป​ได้​ครึ่ง​ทาง​หนังสือ​ที่​ผม​เอา​ไป​ก็​หมด​เกลี้ยง ทุก​วัน​นี้ ผม​ยัง​คง​สงสัย​ว่า​หนังสือ​ที่​เป็น​เหมือน​เมล็ด​แห่ง​ความ​จริง​ที่​ได้​หว่าน​ใน​ตอน​นั้น​จะ​งอก​ขึ้น​บ้าง​ไหม—1 โค. 3:6, 7

ผม​ยอม​รับ​ว่า ตอน​ที่​เรียน​ความ​จริง​ครั้ง​แรก ผม​ไม่​ค่อย​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​เท่า​ไร​โดย​เฉพาะ​เมื่อ​ประกาศ​กับ​คน​ใน​ครอบครัว เนื่อง​จาก​ความ​รัก​ครั้ง​แรก​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ลุก​โชน​ใน​ตัว​ผม ผม​จึง​ประกาศ​กับ​พวก​เขา​อย่าง​กล้า​หาญ​แต่​เป็น​แบบ​ขวานผ่าซาก เช่น ผม​พยายาม​ยัดเยียด​ความ​จริง​ให้​จอห์น​กับ​รอน​พี่​ชาย​ของ​ผม​เพราะ​ผม​รัก​พวก​เขา​มาก ต่อ​มา ผม​รู้สึก​เสียใจ​ที่​ไม่​ได้​คิด​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​พวก​เขา แต่​ผม​ก็​ไม่​เลิก​อธิษฐาน​ขอ​พระ​ยะโฮวา​ให้​ช่วย​พวก​เขา​ตอบรับ​ความ​จริง ตั้ง​แต่​นั้น​มา พระ​ยะโฮวา​ได้​สอน​และ​ช่วย​ผม​ให้​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​มาก​ขึ้น​เมื่อ​ประกาศ​และ​สอน​ความ​จริง—โกโล. 4:6

ความ​รัก​ครั้ง​ที่​สอง

แม้​ผม​จะ​จำ​ความ​รัก​ครั้ง​แรก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ได้​ดี แต่​ผม​ก็​ยัง​จำ​ความ​รัก​ครั้ง​ที่​สอง​ที่​มี​ต่อ​ซูซาน​ภรรยา​สุด​ที่​รัก​ของ​ผม​ได้​ด้วย ผม​อยาก​มี​คู่​ที่​ช่วย​ให้​ทำ​งาน​ราชอาณาจักร​ได้​ต่อ ๆ ไป ซูซาน​เป็น​ผู้​หญิง​ที่​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง ผม​จำ​ได้​ดี​ตอน​ที่​เรา​เป็น​แฟน​กัน วัน​หนึ่ง​ผม​แวะ​ไป​หา​เธอ​ที่​เมือง​แครนสตัน รัฐ​โรดไอแลนด์ เธอ​นั่ง​อยู่​ที่​ระเบียง​หน้า​บ้าน​ของ​พ่อ​แม่​กำลัง​อ่าน​วารสาร​หอสังเกตการณ์ พร้อม​กับ​เปิด​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​ประทับใจ​ที่​เห็น​เธอ​เปิด​พระ​คัมภีร์​ตาม​ทั้ง​บทความ​ศึกษา​และ​บทความ​อื่น​ด้วย ผม​คิด​ว่า ‘ผู้​หญิง​คน​นี้​แหละ​ที่​รัก​พระเจ้า!’ จาก​นั้น เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​ธันวาคม​ปี 1971 ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​ที่​เธอ​อยู่​เคียง​ข้าง​และ​สนับสนุน​ผม​เสมอ ผม​เห็น​คุณค่า​ที่​เธอ​รัก​พระ​ยะโฮวา​มาก​กว่า​รัก​ผม

กับ​ซูซาน​ภรรยา​ของ​ผม และ​พอล​กับ​เจสซี​ลูก​ชาย​ของ​เรา

ผม​กับ​ซูซาน​มี​ลูก​ชาย 2 คน​คือ​เจสซี​กับ​พอล​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​ของ​ขวัญ​จาก​พระ​ยะโฮวา ตั้ง​แต่​เล็ก​จน​โต​พระ​ยะโฮวา​อยู่​กับ​พวก​เขา​เสมอ (1 ซามู. 3:19) พวก​เขา​ทำ​ให้​ความ​จริง​เป็น​ของ​ตัว​เอง เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​ผม​กับ​ซูซาน​มี​ความ​สุข​มาก พวก​เขา​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มา​ตลอด​เพราะ​คิด​ถึง​ความ​รัก​ครั้ง​แรก​ที่​มี​ต่อ​พระองค์​เหมือน​กับ​ผม พวก​เขา​แต่​ละ​คน​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​มาก​กว่า 20 ปี​แล้ว ผม​ยัง​ภูมิ​ใจ​ใน​ตัว​ลูก​สะใภ้​ที่​น่า​รัก​ทั้ง​สอง​ด้วย​คือ​สเตฟานี​และ​ราเคล ผม​มอง​พวก​เธอ​เหมือน​ลูก​สาว​แท้ ๆ ของ​ผม ลูก ๆ ของ​ผม​แต่งงาน​กับ​ผู้​หญิง​ที่​มี​ความ​เชื่อ​และ​รัก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​อย่าง​สุด​หัวใจ—เอเฟ. 6:6

ครอบครัว​ของ​เรา​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​ประกาศ​ใน​เขต​ที่​ไม่​ค่อย​ได้​ทำ

หลัง​จาก​รับ​บัพติสมา ผม​รับใช้​ใน​รัฐ​โรดไอแลนด์ 16 ปี ที่​นั่น​ผม​มี​เพื่อน​ที่​ดี​หลาย​คน ผม​มี​ความ​ทรง​จำ​ดี ๆ ที่​ได้​รับใช้​กับ​เหล่า​ผู้​ปกครอง​ที่​น่า​รัก ยิ่ง​กว่า​นั้น ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​หลาย​คน​ที่​เป็น​ตัว​อย่าง​ให้​ผม เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ที่​ได้​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​พี่​น้อง​ชาย​ซึ่ง​ได้​รักษา​ความ​รัก​ครั้ง​แรก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา! ต่อ​มา​ใน​ปี 1987 เรา​ย้าย​ไป​ที่​รัฐ​นอร์ทแคโรไลนา​เพื่อ​รับใช้​ใน​เขต​ที่​ต้องการ​ผู้​ประกาศ​มาก​กว่า​และ​ที่​นั่น​เรา​ได้​พัฒนา​ความ​สัมพันธ์​ที่​มี​ค่า​กับ​หลาย​คน a

นำ​การ​ประชุม​เพื่อ​การ​ประกาศ​ตอน​ที่​ผม​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด

ใน​เดือน​สิงหาคม ปี 2002 ผม​กับ​ซูซาน​ตอบรับ​คำ​เชิญ​ให้​มา​รับใช้​ที่​เบเธล​แพตเทอร์สัน ผม​ทำ​งาน​ใน​แผนก​การ​รับใช้​และ​ซูซาน​ทำ​งาน​ใน​แผนก​ซัก​รีด เธอ​ชอบ ทำ​งาน​ที่​นั่น​มาก ๆ ต่อ​มา ใน​เดือน​สิงหาคม ปี 2005 ผม​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ให้​รับใช้​เป็น​สมาชิก​คน​หนึ่ง​ของ​คณะ​กรรมการ​ปกครอง ผม​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​คู่​ควร​กับ​สิทธิ​พิเศษ​นี้ ภรรยา​ของ​ผม​ก็​กังวล​กับ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใหม่​นี้​ที่​ต้อง​เดิน​ทาง​บ่อย ๆ แม้​ซูซาน​ไม่​ชอบ​นั่ง​เครื่องบิน​เลย​แต่​เรา​ก็​บิน​หลาย​ครั้ง! เธอ​บอก​ว่า ภรรยา​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​คน​อื่น ๆ ให้​กำลังใจ​เธอ​ด้วย​ความ​รัก เธอ​จึง​ตั้งใจ​สนับสนุน​ผม​มาก​เท่า​ที่​ทำ​ได้ และ​เธอ​ก็​ทำ​อย่าง​นั้น​จริง ๆ นั่น​แหละ​ที่​ทำ​ให้​ผม​รัก​เธอ

ห้อง​ทำ​งาน​ของ​ผม​เต็ม​ไป​ด้วย​ภาพ​ต่าง ๆ ที่​มี​ความ​หมาย​กับ​ผม​มาก ภาพ​เหล่า​นั้น​เตือน​ผม​ให้​คิด​ถึง​ชีวิต​ที่​มี​ความ​สุข ที่​จริง ผม​ได้​รับ​รางวัล​มาก​มาย​อยู่​แล้ว​จาก​การ​ที่​ได้​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​เพื่อ​จะ​ไม่​ลืม​ความ​รัก​ครั้ง​แรก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา!

การ​ได้​อยู่​กับ​ครอบครัว​ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​สุข​มาก

a ดู​ราย​ละเอียด​เพิ่ม​เติม​เกี่ยว​กับ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​ของ​พี่​น้อง​มอร์ริส​ได้​ใน​หอสังเกตการณ์ 15 มีนาคม 2006 หน้า 26