คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​คน

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​คน

เหตุ​ใด​ชาย​ที่​เคย​มี​ภรรยา​หลาย​คน​และ​ต่อ​ต้าน​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จึง​ตัดสิน​ใจ​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ? อะไร​ทำ​ให้​นัก​เทศน์​นิกาย​เพนเทคอสต์​คน​หนึ่ง​เปลี่ยน​ความ​เชื่อ? อะไร​ช่วย​ให้​ผู้​หญิง​ที่​มี​ชีวิต​ขมขื่น​ใน​วัย​เด็ก​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​เกลียด​ตัว​เอง​และ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ใกล้​ชิด​กับ​พระเจ้า? ทำไม​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​เคย​คลั่งไคล้​ดนตรี​เฮฟวีเมทัล​จึง​มา​เป็น​ผู้​สอน​ศาสนา? เชิญ​อ่าน​เรื่อง​ราว​ที่​พวก​เขา​จะ​เล่า​ต่อ​ไป​นี้.

“ตอน​นี้​ผม​เป็น​สามี​ที่​ดี​ขึ้น.”​—รีโกเบร์ อูเอโต

  • ปี​เกิด: 1941

  • ประเทศ​บ้าน​เกิด: เบนิน

  • อดีต: มี​ภรรยา​หลาย​คน​และ​ต่อ​ต้าน​พยาน​พระ​ยะโฮวา

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา:

ผม​มา​จาก​โค​โต​โน​อู​ซึ่ง​เป็น​เมือง​ใหญ่​ใน​เบนิน. ผม​โต​มา​ใน​ครอบครัว​คาทอลิก​แต่​ไม่​ได้​ไป​โบสถ์​เป็น​ประจำ. ใน​แถบ​ที่​ผม​อยู่ ชาว​คาทอลิก​มัก​มี​ภรรยา​หลาย​คน​เพราะ​ใน​สมัย​นั้น​ยัง​ไม่​ถือ​เป็น​เรื่อง​ผิด​กฎหมาย. ผม​เอง​ก็​มี​ภรรยา​ถึง​สี่​คน.

เมื่อ​เกิด​การ​ปฏิวัติ​ขึ้น​ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1970 ผม​คิด​ว่า​การ​ปฏิวัติ​ครั้ง​นี้​จะ​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​ประเทศ​ของ​ผม. ผม​จึง​สนับสนุน​การ​ปฏิวัติ​อย่าง​เต็ม​ที่​และ​เข้า​ไป​มี​ส่วน​ร่วม​ทาง​การ​เมือง. ประชาชน​ที่​สนับสนุน​การ​ปฏิวัติ​ไม่​ชอบ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​พยาน​ฯ ไม่​เข้า​ข้าง​ฝ่าย​ใด. ผม​ก็​เป็น​คน​หนึ่ง​ที่​ข่มเหง​พยาน​ฯ ด้วย. เมื่อ​มิชชันนารี​ของ​พยาน​ฯ ถูก​เนรเทศ​ออก​นอก​ประเทศ​ใน​ปี 1976 ผม​มั่น​ใจ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ไม่​มี​วัน​ได้​กลับ​เข้า​มา​อีก.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ผม​อย่าง​ไร:

การ​ปฏิวัติ​สิ้น​สุด​ลง​ใน​ปี 1990. ผม​แปลก​ใจ​มาก​เมื่อ​เห็น​พวก​มิชชันนารี​พยาน​ฯ กลับ​มา​อีก​ครั้ง. ผม​เริ่ม​คิด​ว่า​บาง​ที​พระเจ้า​อาจ​อยู่​กับ​คน​พวก​นี้​ก็​ได้. ใน​ช่วง​นั้น​เอง ผม​ย้าย​ไป​ทำ​งาน​ที่​ใหม่. เพื่อน​ร่วม​งาน​คน​หนึ่ง​เป็น​พยาน​ฯ และ​หลัง​จาก​รู้​จัก​กัน​ได้​ไม่​นาน เขา​ก็​เริ่ม​เล่า​ให้​ผม​ฟัง​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ทาง​ศาสนา​ของ​เขา. เขา​ให้​ผม​ดู​ข้อ​ความ​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​บอก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​ที่​มี​ความ​รัก​และ​ความ​ยุติธรรม. (พระ​บัญญัติ 32:4; 1 โยฮัน 4:8) ผม​รู้สึก​ประทับใจ​ใน​คุณลักษณะ​เหล่า​นั้น. ผม​ต้องการ​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา ผม​จึง​ตอบ​ตก​ลง​เมื่อ​เขา​ชวน​ให้​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ผม​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ผม​ประทับใจ​ที่​เห็น​ว่า​พวก​เขา​มี​ความ​รัก​แท้​ต่อ​กัน และ​ไม่​มี​การ​แบ่ง​แยก​ชน​ชั้น​หรือ​สี​ผิว. ยิ่ง​ผม​รู้​จัก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มาก​เท่า​ไร ผม​ก็​ยิ่ง​แน่​ใจ​ว่า​พวก​เขา​เป็น​สาวก​แท้​ของ​พระ​เยซู.—โยฮัน 13:35

ผม​รู้​ว่า​ถ้า​ผม​อยาก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา ผม​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ลา​ออก​จาก​คริสตจักร​คาทอลิก. แต่​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ไม่​ง่าย​เพราะ​ผม​กลัว​คน​อื่น​จะ​ไม่​พอ​ใจ. หลัง​จาก​รวบ​รวม​ความ​กล้า​อยู่​นาน​และ​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​ลา​ออก​จาก​คริสตจักร.

ยัง​มี​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ผม​ต้อง​เปลี่ยน​แปลง​ขนาน​ใหญ่. ผม​ได้​เรียน​รู้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ว่า​การ​มี​ภรรยา​หลาย​คน​เป็น​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ไม่​พอ​พระทัย. (เยเนซิศ 2:18-24; มัดธาย 19:4-6) ตาม​ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​แล้ว​การ​แต่งงาน​ครั้ง​แรก​ถือ​ว่า​ถูก​ต้อง. ดัง​นั้น ผม​จึง​จด​ทะเบียน​สมรส​กับ​ภรรยา​คน​แรก​และ​เลิก​กับ​ภรรยา​คน​อื่น ๆ โดย​จัด​ให้​พวก​เธอ​มี​สิ่ง​จำเป็น​ต่าง ๆ อย่าง​พอ​เพียง. ต่อ​มา อดีต​ภรรยา​ของ​ผม​สอง​คน​ก็​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ด้วย.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ:

แม้​ว่า​ภรรยา​ของ​ผม​จะ​ยัง​เป็น​คาทอลิก แต่​เธอ​ก็​นับถือ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ผม​ที่​เลือก​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. เรา​ต่าง​ก็​รู้สึก​ว่า​ตอน​นี้​ผม​เป็น​สามี​ที่​ดี​ขึ้น.

ผม​เคย​คิด​ว่า​ผม​จะ​พัฒนา​ชุมชน​ได้​โดย​เข้า​ไป​มี​บทบาท​ทาง​การ​เมือง แต่​ผล​กลับ​ไม่​ได้​เป็น​อย่าง​ที่​คิด. ตอน​นี้​ผม​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เท่า​นั้น​ที่​จะ​แก้​ปัญหา​ของ​มนุษย์​ได้. (มัดธาย 6:9, 10) ผม​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​สอน​ผม​ให้​รู้​จัก​แนว​ทาง​ชีวิต​ที่​นำ​ไป​สู่​ความ​สุข​แท้.

“ไม่​ง่าย​เลย​ที่​จะ​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง.”—อะเล็กซ์ เล​มอส ซิลวา

  • ปี​เกิด: 1977

  • ประเทศ​บ้าน​เกิด: บราซิล

  • อดีต: นัก​เทศน์​นิกาย​เพนเทคอสต์

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา:

ผม​เติบโต​ขึ้น​ใน​แถบ​ชาน​เมือง​อีตู รัฐ​เซาเปาลู. ชุมชน​แถบ​นี้​ขึ้น​ชื่อ​ว่า​เป็น​แหล่ง​อาชญากรรม.

ผม​เป็น​คน​ดุ​ร้าย​และ​ไร้​ศีลธรรม. นอก​จาก​นั้น ผม​ยัง​ลักลอบ​ขน​ยา​เสพ​ติด​ด้วย. ใน​ที่​สุด ผม​ก็​ตระหนัก​ว่า​ถ้า​ผม​ยัง​ใช้​ชีวิต​แบบ​นั้น​ต่อ​ไป​ผม​คง​ต้อง​จบ​ชีวิต​ใน​คุก​หรือ​ไม่​ก็​หลุม​ศพ. ผม​จึง​เลิก​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​แล้ว​เริ่ม​ไป​เข้า​โบสถ์​ของ​นิกาย​เพนเทคอสต์ และ​ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​ได้​เป็น​นัก​เทศน์.

ผม​รู้สึก​ว่า​การ​เป็น​นัก​เทศน์​ใน​โบสถ์​ทำ​ให้​ผม​สามารถ​ช่วย​ผู้​คน​ได้​อย่าง​แท้​จริง. ผม​ถึง​กับ​จัด​รายการ​สอน​ศาสนา​ทาง​วิทยุ​ชุมชน​จน​มี​ชื่อเสียง​โด่งดัง. แต่​ต่อ​มา​ผม​ก็​เริ่ม​มอง​เห็น​ว่า​แท้​จริง​แล้ว​คริสตจักร​ไม่​ได้​สนใจ​สวัสดิภาพ​ของ​เหล่า​สมาชิก​เลย แถม​ยัง​ไม่​สนใจ​จะ​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระเจ้า​ด้วย​ซ้ำ. ผม​รู้สึก​ว่า​เป้าหมาย​เพียง​อย่าง​เดียว​ของ​คริสตจักร​คือ​การ​หา​เงิน. ผม​จึง​ตัดสิน​ใจ​ลา​ออก​จาก​คริสตจักร.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ผม​อย่าง​ไร:

เมื่อ​ผม​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ผม​มอง​เห็น​ทันที​ว่า​พวก​เขา​ไม่​เหมือน​ศาสนา​อื่น. มี​สอง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​ผม​ประทับใจ. อย่าง​แรก พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​เพียง​แต่​พูด ว่า​รัก​พระเจ้า​และ​เพื่อน​บ้าน แต่​พวก​เขา​แสดง ให้​เห็น​ด้วย​การ​กระทำ. อย่าง​ที่​สอง พวก​เขา​ไม่​ยุ่ง​เกี่ยว​กับ​การ​เมือง​และ​สงคราม. (ยะซายา 2:4) สิ่ง​ที่​เห็น​ทำ​ให้​ผม​มั่น​ใจ​ว่า​ผม​ได้​พบ​ศาสนา​แท้ ซึ่ง​เป็น​ทาง​แคบ​ที่​นำ​ไป​สู่​ชีวิต​นิรันดร์.—มัดธาย 7:13, 14

ผม​รู้​ว่า​ถ้า​ผม​อยาก​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย ผม​ต้อง​เปลี่ยน​แปลง​อะไร​หลาย​อย่าง. ผม​ต้อง​เอา​ใจ​ใส่​ครอบครัว​ให้​มาก​กว่า​นี้. ผม​ต้อง​ถ่อม​ใจ​มาก​ขึ้น​ด้วย. ไม่​ง่าย​เลย​ที่​จะ​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง แต่​ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระ​ยะโฮวา​ผม​ทำ​ได้​สำเร็จ. ภรรยา​ของ​ผม​ประทับใจ​ที่​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​เหล่า​นี้. ที่​จริง เธอ​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ก่อน​ผม แต่​ตอน​นี้​เธอ​เอา​จริง​เอา​จัง​กว่า​เดิม​และ​ก้าว​หน้า​อย่าง​รวด​เร็ว. ไม่​นาน เรา​ทั้ง​คู่​ก็​คิด​ว่า​เรา​ต้องการ​จะ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ใน​ที่​สุด เรา​ได้​รับ​บัพติสมา​ใน​วัน​เดียว​กัน.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ:

ผม​กับ​ภรรยา​ยินดี​มาก​ที่​ได้​ช่วย​ลูก​ทั้ง​สาม​คน​ให้​มี​สัมพันธภาพ​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา. เรา​เป็น​ครอบครัว​ที่​มี​ความ​สุข. ผม​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ชัก​นำ​ผม​ให้​ได้​พบ​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​พระ​คำ​ของ​พระองค์. คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ผู้​คน​ได้​จริง ๆ! ชีวิต​ผม​นี่​แหละ​เป็น​ข้อ​พิสูจน์.

“ฉัน​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​สะอาด และ​มี​ชีวิต​อยู่​อย่าง​มี​ความ​หมาย.”​—วิกตอเรีย ทัง

  • ปี​เกิด: 1957

  • ประเทศ​บ้าน​เกิด: ออสเตรเลีย

  • อดีต: มี​ชีวิต​วัย​เด็ก​ที่​ขมขื่น

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา:

ฉัน​โต​ขึ้น​ใน​เมือง​นิวคาสเซิล รัฐ​นิวเซาท์เวลส์. ฉัน​เกิด​มา​ใน​ครอบครัว​ที่​พ่อ​ติด​เหล้า. ฉัน​เป็น​ลูก​สาว​คน​โต​ใน​บรรดา​ลูก​เจ็ด​คน. ทั้ง​พ่อ​และ​แม่​ของ​ฉัน​ชอบ​ใช้​ความ​รุนแรง. แม่​มัก​จะ​ตบ​ตี​และ​ด่า​ว่า​ฉัน​เป็น​ประจำ. แม่​พูด​บ่อย ๆ ว่า​ฉัน​เป็น​คน​เลว​และ​จะ​ต้อง​ถูก​ทรมาน​ใน​ไฟ​นรก. คำ​ขู่​ของ​แม่​ทำ​ให้​ฉัน​กลัว​มาก.

ฉัน​ถูก​แม่​ทุบ​ตี​อย่าง​ทารุณ​จน​ต้อง​ขาด​เรียน​บ่อย ๆ. เมื่อ​อายุ 11 ขวบ ฉัน​ถูก​พา​ไป​อยู่​ที่​สถาน​คุ้มครอง​เด็ก​ของ​รัฐบาล​และ​ต่อ​มา​ก็​ถูก​ส่ง​ไป​อยู่​ใน​คอนแวนต์​แห่ง​หนึ่ง. พอ​อายุ 14 ปี​ฉัน​หนี​ออก​จาก​คอนแวนต์. ฉัน​ไม่​อยาก​กลับ​ไป​ที่​บ้าน ฉัน​จึง​ใช้​ชีวิต​อยู่​ตาม​ถนน​ใน​ย่าน​คิงส์​ครอส​ของ​ซิดนีย์.

ระหว่าง​เร่ร่อน​อยู่​ตาม​ถนน ฉัน​เสพ​ยา ติด​เหล้า ดู​สื่อ​ลามก และ​เป็น​โสเภณี. ครั้ง​หนึ่ง​ฉัน​เจอ​กับ​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​กลัว​จริง ๆ. ช่วง​นั้น​ฉัน​อาศัย​อยู่​กับ​เจ้าของ​ไนต์คลับ​แห่ง​หนึ่ง. เย็น​วัน​หนึ่ง มี​ชาย​สอง​คน​มา​พบ​เขา​ที่​อพาร์ตเมนต์. เขา​บอก​ให้​ฉัน​เข้า​ไป​อยู่​ใน​ห้อง​นอน แต่​ฉัน​แอบ​ได้​ยิน​พวก​เขา​คุย​กัน. เจ้าของ​ไนต์คลับ​เจรจา​ตก​ลง​ขาย​ฉัน​ให้​กับ​ชาย​สอง​คน​นั้น. พวก​เขา​คิด​จะ​ซ่อน​ฉัน​ใน​เรือ​สินค้า​และ​ส่ง​ฉัน​ไป​ทำ​งาน​ใน​บาร์​ที่​ญี่ปุ่น. ฉัน​กลัว​มาก​จึง​กระโดด​หนี​ออก​ไป​ทาง​ระเบียง แล้ว​วิ่ง​ไป​ขอ​ให้​คน​ช่วย.

ฉัน​พบ​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​มา​เที่ยว​ซิดนีย์. ฉัน​เล่า​ให้​เขา​ฟัง​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​และ​หวัง​ว่า​เขา​จะ​ให้​เงิน​ฉัน​บ้าง. แต่​เขา​กลับ​ชวน​ฉัน​ไป​ที่​ห้อง​พัก​ของ​เขา​เพื่อ​อาบ​น้ำ​และ​กิน​อะไร​สัก​หน่อย. สุด​ท้าย ฉัน​ก็​พัก​อยู่​กับ​เขา. แล้ว​หนึ่ง​ปี​หลัง​จาก​นั้น เรา​ก็​แต่งงาน​กัน.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ฉัน​อย่าง​ไร:

เมื่อ​ฉัน​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ฉัน​เกิด​ความ​รู้สึก​หลาย​อย่าง​ปะปน​กัน. ฉัน​โกรธ​มาก​ที่​รู้​ว่า​ซาตาน​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​ความ​ชั่ว ฉัน​ถูก​สอน​มา​ตลอด​ว่า​พระเจ้า​เป็น​ผู้​ก่อ​ความ​ทุกข์​ยาก​ให้​เรา. ฉัน​โล่ง​ใจ​เมื่อ​ได้​รู้​ว่า​พระเจ้า​จะ​ไม่​ลง​โทษ​มนุษย์​ใน​ไฟ​นรก ซึ่ง​เป็น​คำ​สอน​ที่​ทำ​ให้​ฉัน​หวาด​กลัว​มา​ตลอด​ตั้ง​แต่​จำ​ความ​ได้.

ฉัน​รู้สึก​ประทับใจ​ที่​เห็น​ว่า​เมื่อ​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​เรื่อง​ต่าง ๆ พยาน​ฯ จะ​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​เสมอ. พวก​เขา​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​ความ​เชื่อ​จริง ๆ. ฉัน​เป็น​คน​ที่​เข้า​กับ​คน​อื่น​ได้​ยาก. แต่​ถึง​แม้​ฉัน​จะ​พูด​หรือ​แสดง​กิริยา​ที่​ไม่​ดี พยาน​ฯ ก็​ยัง​ปฏิบัติ​ต่อ​ฉัน​ด้วย​ความ​รัก​และ​ความ​นับถือ.

ปัญหา​ใหญ่​ที่​สุด​ก็​คือ​ฉัน​ต้อง​ต่อ​สู้​กับ​ความ​รู้สึก​ไร้​ค่า. ฉัน​เกลียด​ตัว​เอง​เหลือ​เกิน และ​แม้​ว่า​ฉัน​จะ​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มา​นาน​หลาย​ปี​แล้ว​ความ​รู้สึก​นี้​ก็​ยัง​คง​อยู่. ฉัน​รู้​ว่า​ฉัน​รัก​พระ​ยะโฮวา แต่​ฉัน​ก็​เชื่อ​ว่า​พระองค์​จะ​ไม่​มี​วัน​รัก​คน​อย่าง​ฉัน​ได้​แน่ ๆ.

ใน​ที่​สุด หลัง​จาก​รับ​บัพติสมา​นาน​ถึง 15 ปี ชีวิต​ฉัน​ก็​มา​ถึง​จุด​เปลี่ยน. วัน​นั้น​ฉัน​กำลัง​ฟัง​คำ​บรรยาย​ที่​หอ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​ผู้​บรรยาย​ได้​อ้าง​ถึง​ยาโกโบ 1:23, 24. ข้อ​นั้น​เปรียบ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เหมือน​กระจก​ซึ่ง​ช่วย​ให้​เรา​มอง​ตัว​เอง​อย่าง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​มอง​ดู​เรา. ฉัน​เริ่ม​สงสัย​ว่า​บาง​ที​ฉัน​อาจ​มอง​ตัว​เอง​ต่าง​ไป​จาก​ที่​พระ​ยะโฮวา​มอง​ดู​ฉัน. ที​แรก ฉัน​ต่อ​ต้าน​ความ​คิด​นี้. ฉัน​ยัง​รู้สึก​ว่า​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​รัก​คน​อย่าง​ฉัน.

ไม่​กี่​วัน​หลัง​จาก​นั้น ฉัน​ได้​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​ข้อ​หนึ่ง​ที่​เปลี่ยน​ชีวิต​ฉัน. ข้อ​นั้น​คือ​ยะซายา 1:18 ซึ่ง​ที่​นั่น​พระ​ยะโฮวา​ตรัส​ว่า “มา​เถิด, ให้​เรา​มา​หารือ​ตก​ลง​กัน​เสีย​ให้​เด็ดขาด: แม้​บาป​ของ​เจ้า​จะ​แดง​เป็น​เหมือน​สี​ที่​แดง​ก่ำ, บาป​นั้น​ก็​อาจ​จะ​กลับ​กลาย​เป็น​สี​ขาว​เหมือน​อย่าง​หิมะ.” ฉัน​รู้สึก​เหมือน​กับ​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​ตรัส​กับ​ฉัน​ว่า “มา​เถิด​วิกกี ให้​เรา​มา​ตก​ลง​กัน. เรา​รู้​จัก​เจ้า เรา​รู้​ว่า​เจ้า​ทำ​บาป​อะไร เรา​รู้​ว่า​หัวใจ​เจ้า​เป็น​อย่าง​ไร และ​เรา​ก็​รัก​เจ้า.”

คืน​นั้น​ฉัน​นอน​ไม่​หลับ. ฉัน​ยัง​สงสัย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​รัก​ฉัน​ได้​จริง ๆ หรือ แต่​แล้ว​ฉัน​ก็​เริ่ม​คิด​ถึง​เรื่อง​ค่า​ไถ่​ของ​พระ​เยซู. ทันใด​นั้น ฉัน​ก็​คิด​ได้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​อด​ทน​กับ​ฉัน​มา​นาน​จริง ๆ และ​พระองค์​แสดง​ให้​เห็น​มาก​มาย​หลาย​วิธี​ว่า​พระองค์​รัก​ฉัน. แต่​ฉัน​ก็​ทำ​เหมือน​กับ​จะ​บอก​พระองค์​ว่า “ความ​รัก​ของ​พระองค์​ยัง​ไม่​มาก​พอ​ที่​จะ​เผื่อแผ่​มา​ถึง​คน​อย่าง​ลูก. ค่า​ไถ่​ของ​พระ​บุตร​ของ​พระองค์​ก็​ยัง​ไม่​มี​คุณค่า​พอ​ที่​จะ​ปิด​คลุม​บาป​ของ​ลูก​ได้.” ฉัน​ทำ​ราว​กับ​ว่า​ฉัน​ได้​โยน​ค่า​ไถ่​กลับ​ไป​ให้​พระ​ยะโฮวา. แต่​เมื่อ​ได้​คิด​ใคร่ครวญ​เรื่อง​ค่า​ไถ่​ที่​พระเจ้า​ประทาน​ให้ ตอน​นี้​ฉัน​เริ่ม​รู้สึก​แล้ว​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​รัก​ฉัน​จริง ๆ.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ:

“ฉัน​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​สะอาด และ​มี​ชีวิต​อยู่​อย่าง​มี​ความ​หมาย.” ชีวิต​สมรส​ของ​ฉัน​ดี​ขึ้น​และ​ฉัน​มี​ความ​สุข​ที่​สามารถ​ใช้​ประสบการณ์​ของ​ตัว​เอง​เพื่อ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น. ตอน​นี้​ฉัน​รู้สึก​ใกล้​ชิด​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ที่​ไม่​เคย​รู้สึก​มา​ก่อน.

“นี่​เป็น​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ผม.”​—เซอเกย์ โบตันกิน

  • ปี​เกิด: 1974

  • ประเทศ​บ้าน​เกิด: รัสเซีย

  • อดีต: คลั่งไคล้​ดนตรี​เฮฟวีเมทัล

ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา:

ผม​เกิด​ที่​วอตกินสค์ บ้าน​เกิด​ของ​ปีเตอร์ อิลิช ไชคอฟสกี นัก​ประพันธ์​เพลง​ชื่อ​ดัง. ครอบครัว​ของ​ผม​ยาก​จน. พ่อ​ของ​ผม​เป็น​คน​ดี​แต่​ท่าน​ติด​เหล้า บรรยากาศ​ใน​บ้าน​ของ​เรา​จึง​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เครียด.

ผม​เรียน​หนังสือ​ไม่​เก่ง และ​พอ​โต​ขึ้น​ก็​กลาย​เป็น​คน​มี​ปมด้อย. ผม​ชอบ​เก็บ​ตัว​และ​ไม่​ไว้​ใจ​ใคร​ง่าย ๆ. การ​ไป​โรง​เรียน​ทำ​ให้​ผม​เครียด​มาก. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​ต้อง​รายงาน​หน้า​ชั้น หลาย​ครั้ง​ผม​ไม่​สามารถ​อธิบาย​ความ​คิด​ของ​ตัว​เอง​ได้​แม้​แต่​เรื่อง​ง่าย ๆ ซึ่ง​ถ้า​เป็น​เวลา​อื่น​ผม​จะ​ไม่​มี​ปัญหา​เลย. พอ​จบ​ชั้น​มัธยม​ศึกษา​ปี​ที่​สอง ครู​เขียน​ใน​สมุด​พก​ของ​ผม​ว่า “รู้​คำ​ศัพท์​น้อย อธิบาย​ความ​คิด​ของ​ตัว​เอง​ไม่​ได้.” รายงาน​ของ​ครู​ทำ​ให้​ผม​เจ็บ​ปวด​ใจ​และ​ยิ่ง​รู้สึก​ไร้​ค่า​มาก​ขึ้น​ไป​อีก. ผม​เริ่ม​สงสัย​ว่า​ผม​มี​ชีวิต​อยู่​เพื่อ​อะไร.

ใน​ช่วง​ที่​เป็น​วัยรุ่น ผม​เริ่ม​ดื่ม​เหล้า. ตอน​แรก การ​ดื่ม​เหล้า​ทำ​ให้​ผม​สบาย​ใจ. แต่​พอ​ดื่ม​หนัก​ขึ้น ผม​ก็​รู้สึก​ผิด. ชีวิต​ของ​ผม​ดู​ไร้​ความ​หมาย. ผม​ซึมเศร้า​มาก​ขึ้น และ​บาง​ครั้ง​ผม​จะ​เก็บ​ตัว​อยู่​แต่​ใน​บ้าน​นาน​หลาย​วัน. ผม​เริ่ม​คิด​จะ​ฆ่า​ตัว​ตาย.

พอ​อายุ 20 ปี​ผม​ได้​พบ​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ช่วย​ให้​ผม​ผ่อน​คลาย​ขึ้น​แม้​จะ​เพียง​ชั่ว​คราว​ก็​ตาม นั่น​คือ​ดนตรี​เฮฟวีเมทัล. ดนตรี​นี้​ทำ​ให้​ผม​มี​ชีวิต​ชีวา​และ​ผม​เริ่ม​หา​เพื่อน​ที่​ฟัง​ดนตรี​ประเภท​เดียว​กัน. ผม​ไว้​ผม​ยาว เจาะ​หู และ​แต่ง​ตัว​เลียน​แบบ​นัก​ดนตรี​ที่​ผม​ชื่น​ชอบ. นิสัย​ของ​ผม​ค่อย ๆ เปลี่ยน​ไป​กลาย​เป็น​คน​กล้า​บ้า​บิ่น​และ​ก้าวร้าว. ผม​มัก​มี​เรื่อง​ทะเลาะ​กับ​คน​ใน​ครอบครัว​บ่อย ๆ.

ผม​คิด​ว่า​การ​ฟัง​ดนตรี​เฮฟวีเมทัล​จะ​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข แต่​ผล​กลับ​ตรง​กัน​ข้าม. ผม​เปลี่ยน​ไป​กลาย​เป็น​คน​ละ​คน! และ​เมื่อ​ผม​รู้​ว่า​นัก​ดนตรี​ที่​ผม​คลั่งไคล้​ก่อ​เรื่อง​ไม่​ดี​บาง​อย่าง ผม​ก็​รู้สึก​เหมือน​ถูก​หัก​หลัง.

ผม​เริ่ม​คิด​ฆ่า​ตัว​ตาย​อีก​และ​ครั้ง​นี้​ผม​ตั้งใจ​จริง ๆ. สิ่ง​เดียว​ที่​รั้ง​ผม​ไว้​คือ​ผม​เป็น​ห่วง​ว่า​แม่​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร​ถ้า​ผม​ฆ่า​ตัว​ตาย. แม่​รัก​ผม​มาก​และ​ท่าน​ทำ​หลาย​สิ่ง​หลาย​อย่าง​เพื่อ​ผม. ผม​ทุกข์​ใจ​เหลือ​เกิน. ผม​ไม่​อยาก​มี​ชีวิต​อยู่​อีก​ต่อ​ไป แต่​ผม​ก็​ฆ่า​ตัว​ตาย​ไม่​ได้.

เพื่อ​จะ​ไม่​หมกมุ่น​กับ​เรื่อง​นี้​มาก​เกิน​ไป ผม​จึง​เริ่ม​อ่าน​วรรณกรรม​คลาสสิก​ของ​รัสเซีย. ใน​วรรณกรรม​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ผม​อ่าน ตัวเอก​ของ​เรื่อง​ทำ​งาน​อยู่​ใน​โบสถ์. เรื่อง​ที่​อ่าน​กระตุ้น​ใจ​ผม​ขึ้น​มา​ทันที​ให้​อยาก​ทำ​อะไร​เพื่อ​พระเจ้า​และ​คน​อื่น ๆ. ผม​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​จาก​หัวใจ​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​ผม​ไม่​เคย​ทำ​มา​ก่อน. ผม​ทูล​ต่อ​พระเจ้า​ว่า​ขอ​ทรง​ช่วย​ผม​ให้​รู้​วิธี​ใช้​ชีวิต​อย่าง​มี​ความ​หมาย. ขณะ​ที่​อธิษฐาน​อยู่​นั้น ผม​รู้สึก​โล่ง​ใจ​อย่าง​น่า​ประหลาด. แต่​ที่​น่า​ประหลาด​กว่า​นั้น​คือ หลัง​จาก​นั้น​แค่​สอง​ชั่วโมง​ก็​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​มา​เคาะ​ประตู​บ้าน​และ​ชวน​ผม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. ผม​เชื่อ​ว่า​นี่​เป็น​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​อธิษฐาน​ของ​ผม. ชีวิต​ใหม่​ที่​มี​ความ​สุข​ของ​ผม​เริ่ม​ขึ้น​ใน​วัน​นั้น​เอง.

คัมภีร์​ไบเบิล​เปลี่ยน​ชีวิต​ผม​อย่าง​ไร:

แม้​จะ​ตัดใจ​ได้​ยาก แต่​ผม​ก็​เอา​ทุก​สิ่ง​ที่​เกี่ยว​กับ​ดนตรี​เฮฟวีเมทัล​ไป​ทิ้ง​จน​หมด. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ดนตรี​ที่​ผม​เคย​ฟัง​ยัง​ฝัง​อยู่​ใน​หัว​ผม​อีก​นาน. ถ้า​ผม​บังเอิญ​เดิน​ผ่าน​ไป​ใน​ที่​ที่​มี​การ​เปิด​ดนตรี​พวก​นั้น ผม​จะ​คิด​ถึง​อดีต​ขึ้น​มา​ทันที. ผม​ไม่​อยาก​ให้​ความ​ทรง​จำ​เก่า ๆ มา​ปะปน​กับ​เรื่อง​ดี ๆ ที่​ผม​เพิ่ง​ปลูกฝัง​ลง​ใน​ความ​คิด​จิตใจ. ผม​จึง​ตั้งใจ​ว่า​จะ​ไม่​เฉียด​เข้า​ไป​ใกล้​สถาน​ที่​เหล่า​นั้น. และ​ถ้า​ผม​เริ่ม​คิด​ถึง​เรื่อง​ใน​อดีต​ขึ้น​มา​เมื่อ​ไร ผม​จะ​รีบ​อธิษฐาน​ถึง​พระเจ้า​ทันที. การ​อธิษฐาน​อย่าง​แรง​กล้า​เช่น​นั้น​ช่วย​ให้​ผม​มี “สันติ​สุข​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​เหนือ​กว่า​ความ​คิด​ทุก​อย่าง.”—ฟิลิปปอย 4:7

เมื่อ​ได้​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ผม​จึง​รู้​ว่า​คริสเตียน​จำเป็น​ต้อง​บอก​คน​อื่น​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ของ​ตน. (มัดธาย 28:19, 20) ผม​เชื่อ​ว่า​ผม​ไม่​มี​ทาง​ทำ​ได้​โดย​เด็ดขาด. แต่​ความ​รู้​ใหม่​ที่​ผม​ได้​เรียน​ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​สุข​มาก​และ​มี​ใจ​สงบ. ผม​รู้​ว่า​คน​อื่น ๆ จำเป็น​ต้อง​ได้​เรียน​รู้​ความ​จริง​เช่น​กัน. ดัง​นั้น แม้​จะ​รู้สึก​กลัว​แต่​ผม​ก็​เริ่ม​พูด​คุย​กับ​คน​อื่น ๆ เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​ผม​ได้​เรียน​รู้. ผม​นึก​ไม่​ถึง​เลย​ว่า​การ​พูด​คุย​เรื่อง​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​คน​อื่น​จริง ๆ แล้ว​กลับ​ทำ​ให้​ผม​มี​ความ​มั่น​ใจ​ใน​ตัว​เอง​มาก​ขึ้น. และ​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ยัง​ช่วย​ให้​ความ​เชื่อ​ใหม่​หยั่ง​ราก​ลึก​ใน​หัวใจ​ของ​ผม​ด้วย.

ประโยชน์​ที่​ได้​รับ:

ตอน​นี้​ผม​แต่งงาน​แล้ว​และ​มี​ความ​สุข​มาก. ผม​ดีใจ​ที่​ได้​ช่วย​หลาย​คน​ให้​มา​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล รวม​ทั้ง​แม่​กับ​น้อง​สาว​ของ​ผม​ด้วย. การ​รับใช้​พระเจ้า​และ​ช่วย​คน​อื่น​ให้​เรียน​รู้​จัก​พระองค์​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​ผม​มี​ความ​หมาย​อย่าง​แท้​จริง.