เขียนโดยลูกา 20:1-47

  • ผู้​นำ​ชาว​ยิว​สงสัย​เรื่อง​อำนาจ​ของ​พระ​เยซู (1-8)

  • ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​เรื่อง​คน​เช่า​สวน​ที่​ชั่ว (9-19)

  • พระเจ้า​กับ​ซีซาร์ (20-26)

  • คำ​ถาม​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย (27-40)

  • พระ​คริสต์​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด​ไหม? (41-44)

  • เตือน​เกี่ยว​กับ​พวก​ครู​สอน​ศาสนา (45-47)

20  วัน​หนึ่ง ตอน​ที่​พระ​เยซู​กำลัง​สอน​และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​อยู่​ใน​วิหาร พวก​ปุโรหิต​ใหญ่ พวก​ครู​สอน​ศาสนา และ​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ก็​เข้า​มา​หา 2  และ​พูด​กับ​ท่าน​ว่า “บอก​มา​ซิ คุณ​มี​สิทธิ์​อะไร​มา​ทำ​อย่าง​นี้? ใคร​ให้​อำนาจ​คุณ?”+ 3  พระ​เยซู​พูด​กลับ​ไป​ว่า “ผม​จะ​ถาม​คุณ​ข้อ​หนึ่ง ตอบ​ผม​มา​ก่อน 4  ที่​ยอห์น​ให้​บัพติศมา​นั้น ใคร​ให้​อำนาจ​เขา พระเจ้า*หรือ​มนุษย์?” 5  พวก​เขา​จึง​ปรึกษา​กัน​ว่า “ถ้า​เรา​ตอบ​ว่า ‘พระเจ้า’ เขา​ก็​จะ​ถาม​ว่า ‘ถ้า​อย่าง​นั้น ทำไม​ถึง​ไม่​เชื่อ​ยอห์น?’ 6  แต่​ถ้า​จะ​ตอบ​ว่า ‘มนุษย์’ เดี๋ยว​คน​จะ​เอา​หิน​ขว้าง​พวก​เรา​เพราะ​พวก​เขา​เชื่อ​ว่า​ยอห์น​เป็น​ผู้​พยากรณ์”+ 7  ดัง​นั้น พวก​เขา​ตอบ​ว่า​ไม่​รู้ 8  พระ​เยซู​จึง​ตอบ​กลับ​ไปว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น ผม​ก็​จะ​ไม่​บอก​พวก​คุณ​เหมือน​กัน​ว่า ผม​มี​สิทธิ์​อะไร​ที่​ทำ​อย่าง​นี้” 9  แล้ว​พระ​เยซู​ก็​ยก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ให้​คน​ที่​อยู่​ที่​นั่น​ฟัง​ว่า “มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ปลูก​องุ่น+แล้ว​ให้​คน​มา​เช่า​สวน​องุ่น​นั้น จาก​นั้น​เขา​ก็​เดิน​ทาง​ไป​ต่าง​ประเทศ​เป็น​เวลา​นาน+ 10  เมื่อ​ถึง​ฤดู​เก็บ​ผล เจ้าของ​สวน​ก็​ส่ง​ทาส​คน​หนึ่ง​ไป​หา​คน​เช่า​สวน​เพื่อ​จะ​รับ​ส่วน​แบ่ง​ผล​องุ่น แต่​คน​เช่า​สวน​กลับ​ทุบ​ตี​ทาส​คน​นั้น แล้ว​ไล่​กลับ​ไป​มือ​เปล่า+ 11  เจ้าของ​สวน​จึง​ส่ง​ทาส​อีก​คน​หนึ่ง​ไป พวก​นั้น​ก็​ทุบ​ตี​เขา ดูถูก​เหยียด​หยาม แล้ว​ไล่​เขา​กลับ​ไป​มือ​เปล่า​เหมือน​กัน 12  เจ้าของ​สวน​ก็​ส่ง​คน​ไป​อีก​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม พวก​นั้น​ก็​ทำ​ร้าย​เขา แล้ว​ไล่​กลับ​ไป​เหมือน​คน​ก่อน ๆ 13  ถึง​ตอน​นี้ เจ้าของ​สวน​พูด​กับ​ตัว​เอง​ว่า ‘เรา​จะ​ทำ​ยัง​ไง​ดี? รู้​แล้ว เรา​จะ​ส่ง​ลูก​ชาย​ที่​รัก​ของ​เรา+ไป​ดี​กว่า พวก​นั้น​คง​จะ​นับถือ​เขา​บ้าง’ 14  เมื่อ​คน​เช่า​สวน​เห็น​ลูก​ชาย​เจ้าของ​สวน​ก็​ปรึกษา​กัน​ว่า ‘นี่​ไง คน​ที่​จะ​รับ​มรดก จับ​มัน​ไป​ฆ่า​เลย สวน​นี้​จะ​ได้​ตก​เป็น​ของ​เรา’ 15  พวก​นั้น​จึง​จับ​ตัว​ลูก​ชาย​เจ้าของ​สวน​โยน​ออก​ไป​นอก​สวน​องุ่น​แล้ว​ฆ่า​ทิ้ง+ พวก​คุณ​คิด​ว่า เจ้าของ​สวน​จะ​ทำ​ยัง​ไง​กับ​พวก​นั้น? 16  เขา​ก็​จะ​มา​ฆ่า​คน​เช่า​พวก​นั้น แล้ว​ให้​คน​อื่น​มา​เช่า​สวน​องุ่น​แทน” เมื่อ​คน​ที่​ฟัง​อยู่​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น ก็​พูด​ว่า “ขอ​อย่า​ให้​เรื่อง​แบบ​นี้​เกิด​ขึ้น​เลย” 17  แต่​พระ​เยซู​มอง​พวก​เขา​และ​พูด​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น ข้อ​ความ​นี้​ใน​พระ​คัมภีร์​หมาย​ถึง​อะไร​ที่​ว่า ‘หิน​ที่​ช่าง​ก่อ​สร้าง​ทิ้ง​ไป​แล้ว กลาย​มา​เป็น​หิน​หัว​มุม​หลัก’?*+ 18  ทุก​คน​ที่​ล้ม​ไป​กระแทก​หิน​ก้อน​นั้น ตัว​เขา​เอง​จะ​แหลก​ละเอียด+ และ​ถ้า​หิน​ก้อน​นั้น​ตก​ทับ​ใคร คน​นั้น​ก็​จะ​แหลก​ไป​เหมือน​กัน” 19  เมื่อ​พวก​ครู​สอน​ศาสนา​และ​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​รู้​ว่า​พระ​เยซู​กำลัง​พูด​ถึง​พวก​เขา ก็​หา​ทาง​จะ​จับ​ท่าน​ใน​ตอน​นั้น แต่​ไม่​กล้า​ลง​มือ​เพราะ​กลัว​ประชาชน+ 20  พวก​เขา​จึง​คอย​จับตา​ดู​พระ​เยซู แล้ว​แอบ​จ้าง​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ให้​แกล้ง​ทำ​ตัว​เป็น​คน​ดี และ​ใช้​ให้​ไป​จับ​ผิด​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู+ เพื่อ​จะ​จับ​ตัว​ท่าน​ส่ง​ให้​ผู้​ว่า​ราชการ​ซึ่ง​มี​อำนาจ​ตัดสิน​ลง​โทษ 21  พวก​นั้น​มา​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์​ครับ พวก​เรา​รู้​ว่า​คำ​พูด​และ​คำ​สอน​ของ​ท่าน​ถูก​ต้อง​เสมอ​และ​ท่าน​ไม่​ลำเอียง ท่าน​สอน​คำ​สอน​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา 22  ขอ​ถาม​หน่อย​ว่า ถูก​ต้อง​ไหม​ที่​เรา​จะ​เสีย​ภาษี​ให้​ซีซาร์?” 23  แต่​พระ​เยซู​รู้​ทัน​เล่ห์​เหลี่ยม​ของ​พวก​เขา จึง​ตอบ​ว่า 24  “เอา​เหรียญ​เดนาริอัน*มา​ให้​ผม​สิ นี่​รูป​ใคร และ​ชื่อ​ของ​ใคร​อยู่​บน​เหรียญ​นี้?” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “ซีซาร์” 25  ท่าน​จึง​บอก​พวก​เขา​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น อะไร​ที่​เป็น​ของ​ซีซาร์​ก็​ต้อง​ให้​กับ​ซีซาร์+ และ​อะไร​ที่​เป็น​ของ​พระเจ้า​ก็​ต้อง​ให้​กับ​พระเจ้า”+ 26  พวก​เขา​จึง​จับ​ผิด​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ต่อ​หน้า​ผู้​คน​ไม่​สำเร็จ ได้​แต่​ทึ่ง​กับ​คำ​ตอบ​ของ​ท่าน​จน​พูด​อะไร​ไม่​ออก 27  มี​พวก​สะดูสี​บาง​คน​มา​หา​พระ​เยซู​ด้วย พวก​นี้​ไม่​เชื่อ​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย+ พวก​เขา​ถาม​ว่า+ 28  “อาจารย์​ครับ โมเสส​เขียน​บอก​เรา​ไว้​ว่า ‘ถ้า​ผู้​ชาย​คน​ไหน​ตาย​ไป​และ​ทิ้ง​ภรรยา​ไว้ แต่​ยัง​ไม่​มี​ลูก พี่​ชาย​หรือ​น้อง​ชาย​ของ​เขา​ควร​แต่งงาน​กับ​ภรรยา​ของ​ผู้​ตาย และ​มี​ลูก​ให้​กับ​ผู้​ตาย​นั้น’+ 29  แล้ว​ถ้า​ครอบครัว​หนึ่ง​มี​ลูก​ชาย 7 คน คน​โต​แต่งงาน​กับ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​แล้ว​ก็​ตาย​ไป​ตอน​ที่​ยัง​ไม่​มี​ลูก 30  คน​ที่​สอง 31  แล้ว​ก็​คน​ที่​สาม​ได้​แต่งงาน​กับ​เธอ​ด้วย ใน​ที่​สุด ทั้ง 7 คน​ได้​แต่งงาน​กับ​เธอ และ​ทุก​คน​ตาย​ไป​ตอน​ที่​ยัง​ไม่​มี​ลูก 32  สุด​ท้าย ผู้​หญิง​คน​นั้น​ก็​ตาย​ด้วย 33  แล้ว​อย่าง​นี้ ตอน​ที่​ทุก​คน​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย ผู้​หญิง​คน​นั้น​จะ​เป็น​ภรรยา​ของ​ใคร​ล่ะ เพราะ​ทั้ง 7 คน​เคย​เป็น​สามี​ของ​เธอ?” 34  พระ​เยซู​ตอบ​กับ​พวก​เขา​ว่า “คน​ใน​ยุค*นี้​แต่งงาน​กัน 35  แต่​คน​ที่​สม​ควร​จะ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​และ​ได้​ชีวิต​ใน​ยุค​หน้า จะ​ไม่​แต่งงาน+ 36  พวก​เขา​จะ​ตาย​อีก​ไม่​ได้​และ​จะ​เป็น​เหมือน​ทูตสวรรค์ พวก​เขา​จะ​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า​เพราะ​พระองค์​ปลุก​เขา​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย 37  แต่​เรื่อง​ที่​คน​ตาย​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​นั้น แม้​แต่​โมเสส​ก็​ยัง​เขียน​ไว้​ใน​เรื่อง​พุ่ม​หนาม ตอน​นั้น​เขา​เรียก​พระ​ยะโฮวา*ว่า ‘พระเจ้า​ของ​อับราฮัม พระเจ้า​ของ​อิสอัค และ​พระเจ้า​ของ​ยาโคบ’+ 38  พระองค์​ไม่​ได้​เป็น​พระเจ้า​ของ​คน​ตาย แต่​เป็น​พระเจ้า​ของ​คน​เป็น เพราะ​พระองค์​มอง​ว่า​พวก​เขา​ทุก​คน​มี​ชีวิต​อยู่”+ 39  ครู​สอน​ศาสนา​บาง​คน​ชม​พระ​เยซู​ว่า “อาจารย์ ท่าน​พูด​ได้​ดี​มาก” 40  แล้ว​ก็​ไม่​มี​ใคร​กล้า​ถาม​อะไร​ท่าน​อีก 41  แล้ว​พระ​เยซู​ถาม​พวก​เขา​กลับ​ว่า “ทำไม​คน​ถึง​พูด​กัน​ว่า​พระ​คริสต์​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด?+ 42  ดาวิด​เอง​ก็​บอก​ไว้​ใน​หนังสือ​สดุดี​ว่า ‘พระ​ยะโฮวา*พูด​กับ​ผู้​เป็น​นาย​ของ​ผม​ว่า “นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​เรา​ไป​ก่อน 43  จน​กว่า​เรา​จะ​ทำ​ให้​พวก​ศัตรู​ของ​เจ้า​เป็น​ที่​วาง​เท้า​ของ​เจ้า”’+ 44  ถ้า​ดาวิด​เรียก​พระ​คริสต์​ว่า ‘ผู้​เป็น​นาย’ แล้ว​พระ​คริสต์​จะ​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด​ได้​ยัง​ไง?” 45  พระ​เยซู​บอก​พวก​สาวก​ต่อ​หน้า​ผู้​คน​ที่​กำลัง​ฟัง​อยู่​ว่า 46  “ระวัง​พวก​ครู​สอน​ศาสนา​ให้​ดี พวก​เขา​ชอบ​ใส่​เสื้อ​คลุม​ยาว​เดิน​อวด​ไป​มา ชอบ​ให้​คน​คำนับ​ใน​ที่​สาธารณะ* ชอบ​นั่ง​แถว​หน้า​สุด*ใน​ที่​ประชุม และ​ชอบ​นั่ง​ใน​ที่​ที่​มี​เกียรติ​ที่​สุด​ใน​งาน​เลี้ยง+ 47  พวก​เขา​โกง​เอา​บ้าน*ของ​แม่​ม่าย และ​อธิษฐาน​ยาว ๆ เพื่อ​อวด​คน​อื่น พวก​เขา​จะ​ต้อง​ได้​รับ​โทษ​หนัก​กว่า​คน​ทั่ว​ไป”

เชิงอรรถ

แปล​ตรง​ตัว​ว่า “สวรรค์”
อาจ​หมาย​ถึง​หิน​ก้อน​บน​สุด​ที่​อยู่​มุม​ห้อง ตรง​จุด​ที่​ผนัง​อาคาร​สอง​ด้าน​มา​บรรจบ​กัน
หรือ “ใน​ตลาด”
หรือ “ที่​เด่น​สุด”
หรือ “ทรัพย์​สิน”