เลวีนิติ 13:1-59

  • ข้อ​กำหนด​เกี่ยว​กับ​โรค​เรื้อน (1-46)

  • โรค​เรื้อน​บน​เสื้อ​ผ้า (47-59)

13  พระ​ยะโฮวา​พูด​กับ​โมเสส​และ​อาโรน​ต่อ​ไป​ว่า  “ถ้า​ใคร​มี​รอย​บวม มี​สะเก็ด หรือ​วง​ด่าง​เกิดขึ้น​ที่​ผิวหนัง ซึ่ง​อาจ​กลาย​เป็น​โรค​เรื้อน*+ที่​ผิวหนัง จะ​ต้อง​พา​เขา​มา​หา​ปุโรหิต​อาโรน หรือ​ลูก​ชาย​ของ​เขา​ที่​เป็น​ปุโรหิต+  ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู​บริเวณ​ที่​ติด​เชื้อ​บน​ผิวหนัง​นั้น ถ้า​ขน​ที่​ขึ้น​ใน​บริเวณ​นั้น​เปลี่ยน​เป็น​สี​ขาว และ​เห็น​ว่า​บริเวณ​นั้น​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง แสดง​ว่า​แผล​นั้น​เป็น​โรค​เรื้อน หลัง​จาก​ที่​ปุโรหิต​ตรวจ​ดู​แล้ว เขา​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​ไม่​สะอาด​ใน​สายตา​พระเจ้า  ถ้า​วง​ด่าง​ที่​ผิวหนัง​นั้น​เป็น​สี​ขาว แต่​ไม่​ได้​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง และ​ขน​ไม่​ได้​เปลี่ยน​เป็น​สี​ขาว ปุโรหิต​จะ​ต้อง​กัก​ตัว​คน​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น​ไว้ 7 วัน+  พอ​ครบ 7 วัน ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู​คน​นั้น​อีก ถ้า​เห็น​ว่า​บริเวณ​ที่​ติด​เชื้อ​ไม่​ได้​ลาม​ไป​ตาม​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​กัก​ตัว​เขา​ไว้​อีก 7 วัน  “พอ​ครบ 7 วัน​แล้ว ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู​อีก​ครั้ง​หนึ่ง ถ้า​บริเวณ​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น​จาง​ลง และ​ไม่​ลาม​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​สะอาด+ เขา​เป็น​แค่​แผล​ตก​สะเก็ด คน​นั้น​ต้อง​ซัก​เสื้อ​ผ้า​ของ​ตัว​เอง​ถึง​จะ​ถือ​ว่า​เขา​สะอาด  แต่​ถ้า​แผล​ติด​เชื้อ​นั้น​ลาม​ไป​ตาม​ผิวหนัง​หลัง​จาก​ที่​เขา​ไป​หา​ปุโรหิต​และ​ปุโรหิต​ประกาศ​ว่า​เขา​สะอาด​แล้ว คน​นั้น​จะ​ต้อง​กลับ​ไป​หา​ปุโรหิต​อีก​ครั้ง​หนึ่ง  และ​ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู ถ้า​แผล​นั้น​ลาม​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​ไม่​สะอาด เขา​เป็น​โรค​เรื้อน+  “ถ้า​ใคร​เป็น​โรค​เรื้อน จะ​ต้อง​พา​เขา​ไป​หา​ปุโรหิต 10  และ​ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู+ ถ้า​มี​รอย​บวม​ขาว ๆ ที่​ผิวหนัง ขน​เปลี่ยน​เป็น​สี​ขาว และ​มี​แผล​ปริ+ที่​รอย​บวม​นั้น 11  แสดง​ว่า​เขา​เป็น​โรค​เรื้อน​เรื้อรัง​ที่​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​ไม่​สะอาด แต่​ไม่​ต้อง​กัก​ตัว​เขา​ไว้+เพื่อ​ดู​อาการ​อีก​เพราะ​เขา​ไม่​สะอาด​แล้ว 12  ถ้า​ปุโรหิต​เห็น​ว่า​โรค​เรื้อน​นั้น​กระจาย​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ตัว​ตั้ง​แต่​หัว​จด​เท้า 13  และ​เมื่อ​ตรวจ​ดู​ก็​เห็น​ว่า​โรค​เรื้อน​กระจาย​ไป​ทั่ว​ทุก​ส่วน​ของ​ผิวหนัง​แล้ว ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​สะอาด* เพราะ​ผิวหนัง​ทั้ง​หมด​เปลี่ยน​เป็น​สี​ขาว คน​นั้น​สะอาด​แล้ว 14  แต่​เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​ยัง​มี​แผล​ปริ เขา​จะ​ไม่​สะอาด 15  ถ้า​ปุโรหิต​เห็น​ว่า​มี​แผล​ปริ ปุโรหิต​จะ​ต้อง​ประกาศ​ว่า​เขา​ไม่​สะอาด+ แผล​ที่​ปริ​นั้น​ไม่​สะอาด เพราะ​เป็น​โรค​เรื้อน+ 16  ถ้า​แผล​ที่​ปริ​เปลี่ยน​เป็น​สี​ขาว​อีก เขา​จะ​ต้อง​กลับ​ไป​หา​ปุโรหิต​อีก 17  ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู+ ถ้า​บริเวณ​ที่​ติด​เชื้อ​เปลี่ยน​เป็น​สี​ขาว ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​เขา​สะอาด คน​นั้น​สะอาด​แล้ว 18  “ถ้า​ใคร​เป็น​ฝี​ที่​ผิวหนัง​และหาย​เป็น​ปกติ​แล้ว 19  แต่​มี​รอย​บวม​ขาว​หรือ​วง​ด่าง​สี​แดง​จาง ๆ ตรง​นั้น เขา​จะ​ต้อง​ไป​หา​ปุโรหิต 20  แล้ว​ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู+ ถ้า​รอย​นั้น​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง และ​ขน​ตรง​นั้น​เป็น​สี​ขาว ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​เขา​ไม่​สะอาด​ใน​สายตา​พระเจ้า เขา​เป็น​โรค​เรื้อน​ตรง​นั้น​แล้ว 21  แต่​ถ้า​ปุโรหิต​ตรวจ​ดู และ​เห็น​ว่า​ไม่​มี​ขน​สี​ขาว​ตรง​นั้น อีก​ทั้ง​รอย​นั้น​ก็​จาง​ลง​และ​ไม่​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​กัก​ตัว​คน​นั้น​ไว้ 7 วัน+ 22  ถ้า​รอย​นั้น​ลาม​ไป​ตาม​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​เขา​ไม่​สะอาด เขา​เป็น​โรค​เรื้อน 23  แต่​ถ้า​รอย​นั้น​ยัง​เหมือน​เดิม​ไม่​ได้​ลาม​ไป​ไหน แสดง​ว่า​เป็น​แค่​การ​อักเสบ​ของ​ฝี ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​สะอาด+ 24  “ถ้า​ใคร​มี​แผล​ที่​เกิด​จาก​ไฟ​ไหม้ และ​เนื้อ​ตรง​แผล​นั้น​กลาย​เป็น​วง​ด่าง​สี​แดง​จาง ๆ หรือ​สี​ขาว 25  ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู ถ้า​ขน​ที่​วง​ด่าง​เปลี่ยน​เป็น​สี​ขาว และ​แผล​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง แสดง​ว่า​เป็น​โรค​เรื้อน​ตรง​นั้น​แล้ว ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​เขา​ไม่​สะอาด​ใน​สายตา​พระเจ้า เขา​เป็น​โรค​เรื้อน 26  แต่​ถ้า​ปุโรหิต​ตรวจ​ดู​แล้ว เห็น​ว่า​ไม่​มี​ขน​สี​ขาว​ที่​วง​ด่าง วง​นั้น​จาง​ลง​และ​ไม่​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​กัก​ตัว​คน​นั้น​ไว้ 7 วัน+ 27  พอ​ครบ 7 วัน ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู ถ้า​แผล​นั้น​ลาม​ไป​ตาม​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​เขา​ไม่​สะอาด แผล​นั้น​เป็น​โรค​เรื้อน 28  แต่​ถ้า​วง​ด่าง​นั้น​ยัง​เหมือน​เดิม ไม่​ได้​ลาม​ไป​ตาม​ผิวหนัง​และ​จาง​ลง แสดง​ว่า​แผล​นั้น​แค่​อักเสบ​บวม​ขึ้น​มา และ​ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​สะอาด 29  “ถ้า​ผู้​ชาย​หรือ​ผู้​หญิง​คน​ไหน​มี​แผล​ติด​เชื้อ​ที่​หัว​หรือ​คาง 30  ปุโรหิต​จะ​ต้อง​ตรวจ​ดู+ ถ้า​เห็น​ว่า​แผล​ติด​เชื้อ​นั้น​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง อีก​ทั้ง​ผม​หรือ​เครา​ใน​บริเวณ​นั้น​บาง​และ​เป็น​สี​เหลือง ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​ไม่​สะอาด มี​การ​ติด​เชื้อ​ที่​หนัง​ศีรษะ​หรือ​ที่​บริเวณ​เครา​ของ​เขา เขา​เป็น​โรค​เรื้อน​ที่​หัว​หรือ​คาง 31  แต่​ถ้า​ปุโรหิต​เห็น​ว่า​แผล​ติด​เชื้อ​ไม่​ได้​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง และ​ไม่​เห็น​ผม​หรือ​เครา​ดำ ๆ ใน​บริเวณ​นั้น​เลย ปุโรหิต​จะ​กัก​ตัว​คน​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น​ไว้ 7 วัน+ 32  พอ​ครบ 7 วัน ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู​แผล​ติด​เชื้อ​นั้น ถ้า​บริเวณ​ที่​ติด​เชื้อ​ไม่​ได้​ลาม​ออก​ไป ผม​หรือ​เครา​ที่​ขึ้น​มา​ตรง​นั้น​ก็​ไม่​เป็น​สี​เหลือง และ​บริเวณ​ที่​ติด​เชื้อ​ก็​ไม่​ได้​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง 33  คน​นั้น​จะ​ต้อง​โกน​ผม​และ​เครา​ของ​ตัว​เอง​ออก แต่​อย่า​โกน​ตรง​บริเวณ​ที่​ติด​เชื้อ และ​ปุโรหิต​จะ​ต้อง​กัก​ตัว​คน​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น​ไว้​อีก 7 วัน 34  “พอ​ครบ 7 วัน ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู​บริเวณ​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น ถ้า​แผล​ติด​เชื้อ​ที่​หนัง​ศีรษะ​และ​เครา​ไม่​ลาม​ออก​ไป และ​ไม่​ลึก​ลง​ไป​ใน​ผิวหนัง ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​เขา​สะอาด คน​นั้น​ต้อง​ซัก​เสื้อ​ผ้า​ของ​ตัว​เอง​ถึง​จะ​ถือ​ว่า​เขา​สะอาด 35  แต่​ถ้า​แผล​ที่​ติด​เชื้อ​ลาม​ออก​ไป​ตาม​ผิวหนัง​หลัง​จาก​ปุโรหิต​ประกาศ​ว่า​เขา​สะอาด​แล้ว 36  ปุโรหิต​จะ​ต้อง​ตรวจ​ดู​อีก และ​ถ้า​เห็น​ว่า​แผล​ที่​ติด​เชื้อ​ลาม​ไป​ตาม​ผิวหนัง ปุโรหิต​ก็​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ตรวจ​หา​ผม​หรือ​เครา​ที่​เป็น​สี​เหลือง​อีก คน​นั้น​ไม่​สะอาด 37  แต่​ถ้า​ตรวจ​ดู​แล้ว​เห็น​ว่า​แผล​ที่​ติด​เชื้อ​ไม่​ลุก​ลาม​ไป​ไหน และ​มี​ผม​หรือ​เครา​สี​ดำ​ขึ้น​มา​ตรง​นั้น แสดง​ว่า​แผล​ติด​เชื้อ​นั้น​หาย​เป็น​ปกติ คน​นั้น​สะอาด​แล้ว และ​ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​คน​นั้น​สะอาด​แล้ว+ 38  “ถ้า​ผู้​ชาย​หรือ​ผู้​หญิง​คน​ไหน​มี​วง​ด่าง​สี​ขาว​เกิด​ขึ้น​ที่​ผิวหนัง 39  ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู+ ถ้า​วง​ด่าง​ที่​ผิวหนัง​นั้น​เป็น​สี​ขาว​จาง ๆ แสดง​ว่า​เป็น​ผื่น​ที่​ผิวหนัง​ซึ่ง​ไม่​มี​อันตราย​อะไร คน​นั้น​สะอาด 40  “ถ้า​ผู้​ชาย​คน​ไหน​ผม​ร่วง​จน​หัว​ล้าน จะ​ไม่​ถือ​ว่า​เขา​ไม่​สะอาด 41  ถ้า​ผม​ด้าน​หน้า​ร่วง​จน​หัว​เถิก​ก็​จะ​ไม่​ถือ​ว่า​เขา​ไม่​สะอาด 42  แต่​ถ้า​มี​แผล​สี​แดง​จาง ๆ ตรง​หนัง​ศีรษะ​ที่​ล้าน​หรือ​เถิก แสดง​ว่า​เขา​เป็น​โรค​เรื้อน​ที่​หนัง​ศีรษะ​หรือ​ตรง​หัว​ที่​เถิก​นั้น 43  ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู ถ้า​รอย​บวม​จาก​การ​ติด​เชื้อ​บน​หัว​บริเวณ​ที่​ล้าน​หรือ​เถิก​มี​สี​แดง​จาง ๆ และ​มี​ลักษณะ​เหมือน​กับ​โรค​เรื้อน​ที่​ผิวหนัง 44  แสดง​ว่า​เขา​เป็น​โรค​เรื้อน เขา​ไม่​สะอาด และ​ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​เขา​ไม่​สะอาด เพราะ​เป็น​โรค​เรื้อน​ที่​หัว 45  คน​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​จะ​ต้อง​สวม​เสื้อ​ผ้า​ที่​ฉีก​ขาด และ​ปล่อย​ผม​เผ้า​ให้​รุงรัง เขา​ต้อง​เอา​ผ้า​ปิด​ปาก*ไว้ และ​ร้อง​ตะโกน​ว่า ‘ไม่​สะอาด ไม่​สะอาด’ 46  เขา​จะ​ไม่​สะอาด​ใน​สายตา​พระเจ้า​ตลอด​เวลา​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน เขา​ต้อง​แยก​ตัว​อยู่​ต่าง​หาก เพราะ​เขา​ไม่​สะอาด เขา​จะ​ต้อง​อยู่​นอก​ค่าย​พัก+ 47  “ถ้า​โรค​เรื้อน​เกิด​ขึ้น​กับ​เสื้อ​ผ้า ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เสื้อ​ผ้า​ที่​ทำ​จาก​ขน​สัตว์ หรือ​ทำ​จาก​ผ้า​ลินิน 48  หรือ​เกิด​บน​ผ้า​ทอ*ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ผ้า​ลินิน หรือ​ผ้า​ขน​สัตว์ หรือ​เกิด​ที่​หนัง​สัตว์​หรือ​อะไร​ก็​ตาม​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์ 49  และ​ถ้า​บน​เสื้อ​ผ้า หนัง​สัตว์ ผ้า​ทอ หรือ​สิ่ง​ของ​เครื่อง​ใช้​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์​มี​รอย​สี​เขียว​อม​เหลือง หรือ​รอย​สี​แดง​จาง ๆ จาก​เชื้อ​นั้น แสดง​ว่า​มี​การ​ติด​เชื้อ​จาก​โรค​เรื้อน จะ​ต้อง​เอา​มา​ให้​ปุโรหิต​ดู 50  ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู​สิ่ง​ของ​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น และ​กัก​ของ​พวก​นั้น​ไว้ 7 วัน+ 51  พอ​ครบ 7 วัน เมื่อ​ปุโรหิต​ตรวจ​ดู​ของ​พวก​นั้น​และ​เห็น​ว่า​เชื้อ​ได้​ลาม​ไป​บน​เสื้อ​ผ้า ผ้า​ทอ หรือ​หนัง​สัตว์ (ไม่​ว่า​จะ​เอา​หนัง​สัตว์ไป​ทำ​อะไร​ก็​ตาม) แสดง​ว่า​เป็น​เชื้อ​ของ​โรค​เรื้อน​ที่​ร้ายแรง สิ่ง​ของ​นั้น​ไม่​สะอาด+ 52  เขา​จะ​ต้อง​เอา​เสื้อ​ผ้า ผ้า​ทอ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ผ้า​ขน​สัตว์​หรือ​ผ้า​ลินิน หรือ​สิ่ง​ของ​เครื่อง​ใช้​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์​ซึ่ง​มี​เชื้อ​นั้น​ไป​เผา​ไฟ เพราะ​เป็น​เชื้อ​ของ​โรค​เรื้อน​ที่​ร้ายแรง ดัง​นั้น​จึง​ต้อง​เอา​ไป​เผา​ไฟ 53  “แต่​ถ้า​ปุโรหิต​ตรวจ​ดู​แล้ว และ​เห็น​ว่า​เชื้อ​นั้น​ไม่​ได้​ลาม​ไป​บน​เสื้อ​ผ้า ผ้า​ทอ หรือ​สิ่ง​ของ​เครื่อง​ใช้​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์ 54  ปุโรหิต​จะ​สั่ง​ให้​เอา​สิ่ง​ของ​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น​ไป​ซัก​ล้าง และ​กัก​ของ​นั้น​ไว้​อีก 7 วัน 55  และ​ปุโรหิต​จะ​ตรวจ​ดู​สิ่ง​ของ​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น​หลัง​จาก​ที่​มี​การ​ซัก​ล้าง​อย่าง​ดี​แล้ว ถ้า​ยัง​มี​รอย​อยู่​เหมือน​เดิม​ถึง​จะ​ไม่​ลาม​ไป​ไหน ก็​ให้​ถือ​ว่า​สิ่ง​ของ​นั้น​ไม่​สะอาด​และ​ต้อง​เอา​ไป​เผา​ไฟ เพราะ​สิ่ง​ของ​นั้น​ถูก​เชื้อ​กิน​หมด​แล้ว ไม่​ว่า​จะ​กิน​จาก​ด้าน​ใน​หรือ​ด้าน​นอก​ก็​ตาม 56  “แต่​ถ้า​ปุโรหิต​ตรวจ​ดู และ​เห็น​ว่า​ส่วน​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น​จาง​ลง​หลัง​จาก​ซัก​ล้าง​อย่าง​ดี​แล้ว ก็​ให้​เขา​ฉีก​เสื้อ​ผ้า​หรือ​หนัง​สัตว์ หรือ​ผ้า​ทอ​เฉพาะ​ส่วน​นั้น​ทิ้ง​ไป 57  แต่​ถ้า​ยัง​มี​รอย​เกิด​ขึ้น​ที่​ส่วน​อื่น​ของ​เสื้อ​ผ้า​หรือ​ผ้า​ทอ หรือ​สิ่ง​ของ​เครื่อง​ใช้​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์ แสดง​ว่า​เชื้อ​นั้น​ลาม​แล้ว เจ้า​จะ​ต้อง​เอา​ไฟ​เผา​สิ่ง​ของ​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น+ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​อะไร​ก็​ตาม 58  แต่​ถ้า​พวก​เจ้า​นำ​เสื้อ​ผ้า หรือ​ผ้า​ทอ หรือ​สิ่ง​ของ​เครื่อง​ใช้​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์​ไป​ซัก​ล้าง​แล้ว และ​รอย​ที่​ติด​เชื้อ​นั้น​หาย​ไป ก็​ให้​เจ้า​เอา​มา​ซัก​อีก​รอบ​ก่อน ถึง​จะ​ถือ​ว่า​สิ่ง​ของ​พวก​นั้น​สะอาด 59  “นี่​คือ​ข้อ​บัญญัติ​เกี่ยว​กับ​เชื้อ​ของ​โรค​เรื้อน​ใน​เสื้อ​ผ้า​ที่​ทำ​จาก​ขน​สัตว์​หรือ​จาก​ผ้า​ลินิน หรือ​ผ้า​ทอ หรือ​สิ่ง​ของ​เครื่อง​ใช้​ที่​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์ เพื่อ​ปุโรหิต​จะ​ประกาศ​ว่า​สิ่ง​ไหน​สะอาด และ​สิ่ง​ไหน​ไม่​สะอาด​ใน​สายตา​พระเจ้า”

เชิงอรรถ

คำ​ภาษา​ฮีบรู​ที่​แปล​ว่า “โรค​เรื้อน” มี​ความ​หมาย​กว้าง อาจ​หมาย​รวม​ถึง​โรค​ติด​ต่อ​ทาง​ผิวหนัง​ชนิด​ต่าง ๆ และ​อาจ​หมาย​ถึง​เชื้อ​บาง​ชนิด​ที่​เกิด​กับ​เสื้อ​ผ้า​และ​ตัว​บ้าน
หรือ “ไม่​อยู่​ใน​ระยะ​แพร่​เชื้อ”
หรือ “หนวด”
แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เส้น​ด้าย​แนว​ตั้ง​และ​แนว​นอน​ของ​ผ้า”